วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เมื่อยัยกะทิเป็นเชื้อรา..อรึ๋ยยย..


หลังจากกลับมาพักฟื้นที่ตึกได้สักอาทิตย์นึง ยัยกะทิก็หาเรื่องให้อิ่เจ๊มันปวดหัวได้สำเร็จตามเคยฮ่ะ

จริง ๆ แล้วอิ่ตอนรับตัวกลับมาจากร้านหมอสามวันแรก อิชั้นก็นึกสงสัยอยู่ละ ว่าทำไมรอบตายัยกะทิถึงดูแดง ๆ ฟระ ทีแรกก็นึกว่าเป็นผลพวงมาจากอากาศร้อน (ขนเลยร่วง) หรือเป็นเพราะยัยกะทิไม่คุ้นเคยกับการอยู่กรงตัวเดียวก็เลยพยายามเอาหน้าถูตะแกรงกรงจนรอบเบ้าตาช้ำห้อเลือดอะไรประมาณนี้หรือเปล่า แต่ผลปรากฎว่ายิ่งนานวัน...อาการเบ้าตาช้ำ แดง ขนร่วงเฉอะแฉะก็ยิ่งมากขึ้น ๆ และเห็นชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ >0<


รอบนี้งานเข้าอิ่เจ๊มันอีกละ เพราะไม่รู้ว่าน้องเป็นอะไรกันแน่ ความรู้เรื่องการเลี้ยง แมว ก็ไม่เคยมีกะเค้า รู้อยู่แต่ว่าต้องทำวัคซีนป้องกันโรคให้นะ แล้วก็ไม่รู้ว่ามีอะไรที่ต้องควรระวังอีก

ด้วยความนิ่งนอนใจ..คิดว่ามันไ่ม่เป็นไรหรอกน่ะ ก็แค่แมวขนร่วงเนื่องมาจากสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปหรือเพราะอากาศร้อนเท่านั้น ก็เลยใช้ชีวิตชิล ๆ ปล่อยทิ้งไว้อีกเกือบอาทิตย์ (แถมยังมีหน้าบินไปเที่ยวต่างประเทศซะอีกห้าวันอีกตะหาก T^T)

ผลปรากฎว่าพอกลับมา....เย้ย..ทำไมมันไม่หายซะทีล่ะ แถมเป็นมากขึ้นด้วย ไม่ได้การละ เห็นทีจะต้องพาไปให้หมอดูซะแล้วว่าเป็นอะไรมากรึเปล่า


ตัดสินใจได้ดังนั้นอิชั้นก็พายัยกะทิใส่กระเป๋าแมวแล้วตรงไปร้านหมอทันทีฮ่ะ

"อ๋อ....ยัยกะทิเค้าเป็น โรคเชื้อรา น่ะครับ"

"หา !!?? เป็นโรคเชื้อราเหรอคะ" อิชั้นตาโตเป็นไข่ห่าน "..มันเป็นได้ยังไงคะหมอ กะทิไม่เคยไปเล่นกับแมวตัวอื่น กลับจากคลินิคหมอก็อยู่แต่ที่ตึก กักบริเวณแค่ไม่กี่ที่เท่านั้น ไม่น่าจะไปติดมาจากไหนเลยนะคะ" (อิชั้นแอบจิกตาเล้ก..เล็กกก..โทษหมออยู่ในใจ ติดมาจากคลินิคหมอนี่แน่เลย ฮึ้ยยย..)

"โรคนี้มาตามอากาศได้ครับ เดี๋ยวหมออธิบายคร่าว ๆ ให้ฟังละกันนะ จะได้รู้วิธีดูแลรักษาโรคเชื้อราชนิดนี้ด้วย"

สรุปว่าก่อนอื่นเรามาดูอาการของไอ้เจ้าเชื้อราที่เกิดในแมวกันก่อนค่ะ

อาการโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อราในแมวนั้นมีดังนี้นะคะ

1. ขนแมวจะร่วงเป็นหย่อม ๆ แต่บางครั้งก็แค่เป็นจ้ำแดง ๆ ขนร่วงแล้วก็คันคะเยอเป็นพัก ๆ(ยัยกะทิเป็นแบบหลัง ๆ นี่)
2. บางตัวจะมีปื้นสีน้ำตาลปนดำบริเวณผิวหรือขน
3. มีตุ่มแดง ตุ่มหนอง และขนร่วงเป็นวงกว้าง โดยอาจไม่มีอาการคันร่วมด้วย
4. ขนร่วง ขนแห้ง หลุดกระจาย
5. ไม่มีอาการแน่ชัด พบแค่สะเก็ดแห้ง ๆ ตามลำตัว
6. มีอาการอักเสบรอบ ๆ เล็บ
7. ไม่มีอาการอะไรเลย แต่มันก็เป็นล่ะ....(แนวมั้ย 555+)
ที่สำคัญไปกว่านั้น ไอ้ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ทุกคนรู้มั้ย...ว่า มันติดคนได้นะ...คุณพระช่วย นี่อิชั้นอาจจะติดเชื้อราในร่มผ้าจากยัยกะทิเหรอเนี่ย !!!!?????...(อีโมยกมือสวย ๆ ขึ้นทาบอก)

ทีนี้ก็มาถึงวิธีรักษากันมั่งฮ่ะ วิธีการรักษาโรคเชื้อราในแมวนี่ ต้องรักษาร่วมกันหลายวิธี ได้แก่
1. ใช้ยาหรือแชมพูกำจัดเชื้่อราอาบน้ำให้น้องแมว เพื่อฆ่าเชื้อและสปอร์ของราบนตัวสัตว์ ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อราสู่สิ่งแวดล้อม
2. ให้ยากินเพื่อฆ่าเชื้อรา เพื่อลดระยะเวลาการติดเชื้อให้น้อยลง
3. ใช้น้ำยาที่มีฤทธิ์ทำลายเชื้อราทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมที่แมวอยู่ เพื่อลดโอกาสการกลับมาติดเชื้อใหม่
ซึ่งไอ้เจ้าการรักษาทั้งหลายแหล่ข้างบนนั่นต้องทำอย่างน้อย 4-6 อาทิตย์เลยล่ะ ถึงจะดีขึ้น

ทีนี้..ถ้าไม่อยากให้แมวของเราเป็นเชื้อราจะทำยังไงดี

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเรื่องของความสะอาดฮ่ะ ควรนำเอาข้าวของเครื่องใช้แมวมาตากแดดหรือทำความสะอาดบ่อย ๆ อุปกรณ์ชิ้นไหนที่สะสมเชื้อก็ตัดใจทิ้งไปเลย หากบ้านไหนมีแมวสายพันธุ์ดีหน่อยพวกแมวเปอเซียร์ขนยาว ๆ แนะนำให้ตัดขนแมวทิ้งเพื่อลดปริมาณเชื้่อ และที่สำคัญ หากมีแมวที่เป็นโรคนี้อยู่ก่อนแล้ว ก็พยายามป้องกันไม่ให้แมวตัวอื่นเข้าไปคลุกคลีเพื่อไม่ให้เชื้อราแพร่กระจายกินหัวแมวเราหมด..


ตอนนี้ยัยกะทิอาการก็เริ่มดีขึ้นแล้วอ่ะนะคะ หมอให้ยามาทาอย่างเดียว ไม่ได้ให้ยาตัวอื่นเสริมมาเลย แต่เห็นทีอีกสัก 3-4 วันจะลองไปเดินหาซื้อแชมพูอาบน้ำแมวที่ช่วยขจัดเชื้อรามาอาบให้ จะได้หายไวหน่อย คราวหน้าเรามาจับยัยกะทิไปทำวัคซีนป้องกันลูคีเมียด้วยกันนะคะ




เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai