วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ไม่เอ๊าาา..เอามันออกไปจากบ้านทิน๊า


ถ้ากะทิพูดภาษาคนได้ กะทิคงร้องโวยวายเหมือนไอ้ที่จั่วหัวไดอารี่ไว้ตะกี้นี้อ่ะนะคะ.. >0<

งานนี้กะทิตกเป็นมวยรองเห็น ๆ เพราะอิ่เด็กสองแสบที่มาใหม่มันมาเป็นแพ็คคู่ ซึ่งพออิชั้นขับรถพาเด็กทุกตัวกลับมาถึงตึก ก็ได้เวลาทดลองปล่อยให้สองแสบมาเจอพี่กะทิแระ


ดูเหมือนเด็ก ๆ จะปรับตัวได้ดีมากฮ่ะ เพราะพอปีนออกมาจากตะกร้าได้เท่านั้น ทั้งคู่ก็เดินพล่านไปทั่วออฟฟิศเลยทีเดียว ส่วนยัยกะทิน่ะเหรอ นอกจากขู่แฟร่ด ๆ ๆ แล้วก็วิ่งพล่านหาที่แอบไปทั่วแล้ว ยังพาลขู่ทุกคนที่เข้าใกล้อีกด้วย


เดาเอาว่าเพราะกะทิมันไม่ชอบเด็กแฝดคู่นี้เอามาก ๆ อ่ะ >.< ไอ้ที่เคยคิดมโนไว้ในใจ ว่าเอาแมวเด็กเข้าบ้านมาจะช่วยให้กะทิไม่เหงาเวลาที่อิชั้นไม่อยู่ กลับกลายเป็นว่า เอามาเพิ่มความเครียดให้กับมันซะงั้น


กระนั้นก็ตามเจ้าสองแสบยังคงไม่รู้เรื่องรู้ราวฮ่ะ ยัยตัวเล็กที่เป็นแมวตัวเมีย ท่าทางลั้นลามาก สู้มือรู้งานตลอด ท่าทางเหมือนพออกพอใจที่ได้มาอยู่บ้านนี้เต็มที่


ทำความคุ้นเคยกันไป ก็นึกกันไป...หนูจะชื่ือไรดีลูก..หือ์ม..ยายชื่อกะทิ หลานชื่อกระทิง น้องกระทิง ดิ๊ง ดิ่ง ดิ๊ง ดิง ดีมั้ยอ่ะ (เอิ่้ม..จะดีเหรอคะเจ๊ 5555+ ???!!)


สังเกตดูแล้วกะทิเครียดสุด ๆ ฮ่ะ ในขณะที่เด็ก ๆ ก็เริงรื่นสุด ๆ เช่นกัน สุดท้ายเมื่อกะทิไม่ยอมลงมาเสวนาด้วย แถมยังขู่แฟร่ด ๆ ใส่ทุกคนที่เอื้อมมือไปแตะต้องตัวเค้า อิชั้นก็เลยต้องจำใจแยกตัวกะทิไปใส่กรงไว้ก่อน ขอบอกว่างานนี้แม้แต่จะอุ้มกะทิไปใส่กรง มันยังเอาติงถีบอิชั้นปั๊ด ๆ แล้วก็แยกเขี้ยวยิงฟันแบบเด็กที่โกรธเอามาก ๆ >0<


ที่สุดแล้ว อิชั้นก็เลยสั่งลูกน้องให้เก็บสองแสบเอาไปไว้ที่อีกออฟฟิศหนึ่งก่อนค่ะ ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก ดีไม่ดี อิ่เด็กแฝดที่มาใหม่อาจจะถูกสั่งห้ามไม่ให้ข้ามมาออฟฟิศของพี่กะทิเลยก็ได้ T^T แปลกใจจริ๊งงง...ก็แค่เอาแมวเด็กเข้าบ้านมาแค่ตัวสองตัวเท่านั้น ทำไมกะทิถึงทำท่าเหมือนโลกของมันจะถล่มซะให้ได้ขนาดนั้นฟระ

ในครั้งหน้าเรามาติดตามเรียลริตี้กะทิ แอนด์ อะ ลิตเติ้ลแกงค์ กันต่อนะคะ




เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai




วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ไปรับสองแสบ


หลังจากพาเจ้าแฝด สองแสบตัวเล็กที่เพิ่งได้มาไปฝากไว้ที่ร้านหมอซะตั้งหนึ่งอาทิตย์ เพื่อให้หมอทำวัคซีน,อาบน้ำ,กำจัดเห็บ หมัด ไร,ถ่ายพยาธิ ให้ เมื่อวานนี้อิชั้นก็ได้ฤกษ์ไปถอยแมวน้อยสองตัวออกจากร้านหมอเสียทีฮ่ะ

งานนี้อิชั้นหอบหิ้วเอายัยกะทิไปด้วย เนื่องจากหมอนัดฉีดวัคซีนป้องกันไข้หัดเข็มหนึ่ง ซึ่งอิ่ตอนพาเข้ากระเป๋าแมว กะทิก็สงบเสงี่ยมเรียบร้อยดีอ่ะนะคะ แถมยังคุยจ๋อย ๆ แม๊วม๊าว กับอิชั้นตลอดการเดินทางซะอีกด้วย

พอมาถึงร้านหมอ อิชั้นก็แจ้งความประสงค์จะขอรับสองแสบกลับบ้านอ่ะ แต่เผอิญว่าคุณหมอติดเคสผ่าตัดอยู่ ก็เลยต้องเข้าคิวรอซะหน่อย อย่ากระนั้นเลย วางเป๋าใส่ยัยกะทิไว้ แล้วแอบเข้าไปดูแมวเด็กกันดีกว่านะคะ..^0^


หลับปร้อยค่ะ..อิอิ..สองแสบขดกันเป็นซาละเปาสองลูกเลย น่ารักซะไม่มีอ่ะ สังเกตว่าถึงคุณหมอจะพยายามอาบน้ำทำความสะอาดเด็ก ๆ มาเกือบอาทิตย์ หู จมูก ใต้คางก็ยังกระดำกระด่างอยู่ดี..งานนี้คงต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะขาวปลอดได้ตลอดทั้งตัวเหมือนยัยกะทิ


ที่ดีใจก็คือ..เห็นหลักฐานว่าเด็ก ๆ ใช้กระบะทรายเป็นแล้วค่ะ..ดีใจมว้ากก..ไม่งั้นอิชั้้นคงเครียดอ่ะ เพราะไม่รู้จะหัดมันยังไงดี

"เด็ก ๆ ร่าเริงมากเลยครับ เมื่อคืนเปิดประตูกรงเองได้ด้วยนะ"

ห๊ะ..!!??

เสียงหมอซึ่งมือก็ยังสาละวนกับการผ่าตัดในห้องตะโกนบอก

เอ..เหมือนใครหว่า คุ้น ๆ นะกะทิ 5555+

พักใหญ่ ๆ เลยค่ะ ว่าจะสามารถทำวัคซีนให้ยัยกะทิแล้วรับตัวสองแสบออกมาขึ้นรถได้ งานนี้กะทิขู่แฟร่ด ๆ อยู่ในกระเป๋าตัวเองตลอด ส่วนน้องน่ะเหรอ ร้องกันเจี๊ยวจ๊าว จะออกมาจากตะกร้าให้ได้


งานนี้กะทิหันตรูดให้ตะกร้าน้องตลอดการเดินทางฮ่ะ ดูเหมือนจะหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย เพราะไอ้ที่คุยจ๋อย ๆ เมี๊ยวม๊าวมาตลอดทางขามา อิ่ตอนขากลับนี่..เงียบสนิท


เดี๋ยวเรามาจับตาดูอิทธิฤทธิ์ของแม่กะทิตอนพาน้องกลับถึงออฟฟิศกันนะคะ

แล้วกลับมาพบกันได้ใหม่ในครั้งหน้าค่ะ



เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai


วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556

love is all around a cat


ไดอารี่ตอนนี้ของบล็อกยัยกะทิ แอดมินจะเขียนน้อย ๆ ฮ่ะ (จะน้อยได้จริงเร้อ..อุอุ..)

เนื่องจากมีภาพประกอบน่ารัก ๆ เยอะ เลยจะขอเน้นเป็นภาพประทับใจให้ดูกันแบบสบาย ๆ ดีกว่า

อย่างที่เคยเล่าไปนิดหน่อยเมื่อ 2-3 ตอนที่แล้วน่ะนะคะ ว่าช่วงนี้อิชั้นงานยุ่ง แถมบางครั้งยังต้องเดินทางไปต่างจังหวัด 1-2 วัน ซึ่งภาระหน้าที่ในการดูแลแมวก็จะตกเป็นของเสมียนและแม่บ้านที่ประจำอยู่ที่ตึก

เมื่อสามวันที่แล้วก็ตามเคยฮ่ะ อิชั้นต้องเดินทางไปสุพรรณบุรี ค้างที่นั่นคืนนึง ก่อนจะเดินทางกลับในเย็นวันถัดมา สิริรวมแล้วยัยกะทิจะไม่ได้เจอหน้าอิชั้น 2 วันเต็ม ๆ

เช้าวันรุ่งขึ้นที่กลับมา อิชั้นก็รีบเข้าไปหายัยกะทิฮ่ะ วินาทีแรกที่กะทิเห็นอิชั้น มันปีนกรงแหกปากร้องเรียกจนสุดเสียง เล่นเอาอิชั้นต้องรีบลนลานไขกรงแล้วอุ้มมันออกมากอดแนบอก..

กะทิดูเหมือนดีใจมากอ่ะ..มันคงคิดว่าอิชั้นทิ้งมันไปไหนตั้งนาน แม้ว่าจะเอามันออกมาปล่อยไว้ในออฟฟิศแล้วก็ยังมีร้องแอ๊ววว..ๆ.บ่นอิชั้นเป็นระยะ ๆ..

บ่นไม่บ่นเปล่านะคราวนี้ พอจับขาข้างนึงของมันไว้ มีขู่ครืดดด ๆ เหมือนไม่พอใจเล็กน้อยในลำคอด้วย >.<

อิชั้นก็เลยรีบเทอาหารเปียกใส่ถ้วย ให้มันกินให้เต็มอิ่ม ลูบหัวลูบหางมันสักพัก ก่อนจะปล่อยให้มันเดินหายปลีกวิเวกไปด้านหลังออฟฟิศ

ไม่ถึงห้านาทีถัดมา กะทิก็เดินกลับมา ด้วยท่าทางผ่อนคลายขึ้น สงสัยหายโมโห พายุอารมณ์เริ่มสงบ..

"กะทิ..มานี่มา..ขึ้นมานอนบนโซฟานี่" อิชั้นตบโซฟาข้างตัวปุ๊..ปุ๊..

ได้ผลฮ่ะ..กะทิโดดขึ้นมาทันที ก่อนจะตรงรี่เดินดุ่มเอาขามาเหยียบบนตัก

ไม่นานนักอิชั้นก็ได้ภาพชุดน่ารักชุดนี้มา ♥ เรามาดูภาพน่ารัก ๆ ของยัยกะทิกันนะคะ


♥♥♥


♥♥♥


♥♥♥


♥♥♥


♥♥♥


♥♥♥


 ♥♥♥


♥♥♥


แล้วกลับมาพบกับกะทิได้ใหม่ในครั้งหน้านะคะ ♥♥♥



เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai


กาลครั้งหนึ่ง เมื่อ 7 เดือนที่แล้ว


อิชั้นเคยเล่าไปแล้วเมื่อตอนที่รับตัวยัยกะทิและยัยยูกิที่หายไปมาเลี้ยงไว้ที่ตึกใหม่ ๆ น่ะนะคะ ว่าต้องเผชิญกับวิบากแมวอย่างไรบ้าง..แต่ก็น้อยครั้งเลยทีเดียวที่จะได้กลับไปอ่านหรือไปดูรูปเก่า ๆ อีก (เพราะมันมีรูปใหม่ ๆ ฮา ๆ เพิ่มขึ้นในสต๊อกทู๊กก..วัน)

เมื่อวานนี้หลังจากไปหาหลานยัยกะทิที่คลีนิคหมอ อิชั้นก็กลับมานั่งนึกถึงวันแรก ๆ ที่่รับตัวยัยกะทิกับยัยยูกิเข้ามาเป็นสมาชิกครอบครัว ว่าเราผ่านอะไรมาบ้าง แล้วช่วงที่สองสาวนั่นมาถึงตึกใหม่ ๆ มันมีสภาพอย่างไร ถึงแม้ตอนนี้ยูกิจะหายไป 7 เดือนแล้ว แต่อิชั้นก็ยังคิดถึงมันอยู่ไม่สร่างซา


กะทิกับยูกิเป็นแมวขาวมณีทั้งคู่ฮ่ะ ยูกินั้นจะมีอุัปนิสัยที่ขี้อ้อนกว่ากะทิ แต่เสียดายที่วันที่สองที่รับมา แม่บ้านดันปล่อยยูกิหลุดมือไปซะก่อน จนป่านนี้แล้วก็ยังไม่เคยเจอน้องอีกเลย ก็ได้แต่หวังว่าจะมีคนใจดีอุปการะมันไว้น่ะนะ

ส่วนยัยกะทิเองนี่โชคดีฮ่ะ ถึงแม้จะหลุดไปพร้อมยูกิ แต่ด้วยความที่ช่วงนั้นมันท้องโตอยู่ (ก่อนจะพบว่าลูกมันตายในท้องแล้วต้องตัดสินใจทำหมัน) ก็เลยยังวนเวียนอยู่แถวตึก และถูกจับกลับมาได้ในวันต่อมา ถามว่าถ้ายัยกะทิหายไปอีกตัว อิชั้นจะรู้สึกอย่างไร..ก็คงรู้สึกเหมือนมีเด็กในครอบครัวหายไปจากบ้านก็ไม่ปานล่ะนะ

ช่วงที่มาอยู่กับอิชั้นใหม่ ๆ กะทิเป็นแมวที่ค่อนข้างโทรมเอาเรื่องอยู่เหมือนกันฮ่ะ คือจริง ๆ แล้วเจ้าของเก่าเค้าก็เลี้ยงดีพอควรน่ะนะคะ แต่อาจจะเป็นไปได้ว่า เค้าเลี้ยงแบบระบบเปิดให้แมวมีอิสระเสรีเต็มที่ ไม่ได้เลี้ยงยังกะไข่ในหินเหมือนเรา ยัยกะทิก็เลยมีสภาพไม่ต่างจากแมวบ้าน ๆ ที่ตัวยาวหัวหลิม ขาวขมุกขมอมอยู่ไม่สร่างซาแบบนั้น


4 มี.ค 56 วันแรกที่เอากะทิขึ้นตัก...เห็นซี่โครงขึ้นชัดเจน หูเหอตัวเตอ..ดำขมุกขมัวไปหมด


ช่วงเดือนเมษา..พบว่ายัยกะทิลูกตายในท้องทั้งหมดค่ะ เนื่องจากพี่สาวซึ่งเป็นเจ้าของเก่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์พายัยกะทิไปฉีดยาคุมกำเนิดตอนที่มันท้องอยู่..ผลปรากฎว่าต้องพาไปผ่าท้องเอาลูกแมวออกแล้วก็ทำหมันซะ แถมอิ่ตอนกลับมายังติดเชื้อรามาจากร้านหมอด้วยนะ เนื่องจากฝากไว้หลายวันจัด สภาพมันก็เลยยิ่งไม่ต่างจากอิ่แมวซอมบี้


กะทิถูกจับอาบน้ำวันเว้นสองวันฮ่ะ อาการเชื้อราดีขึ้นตามลำดับ ตัวขาวขึ้นทีละน้อย แต่ก็ยังผอมบักโกรกอยู่


น่าเกลียดสิ้นดี 555+ หูก็กาง ขนก็หยาบ บางงงง...จนเห็นผิวหนัง ผอมก็ผอม ปากก็ตุ่ย หน้าก็หงิก แววตาไม่ได้มีความสุขเลยแม้แต่น้อย  >.< เวลานั่งหันหลังให้ที..เห็นซี่โครงขึ้นเป็นซี่่ ๆ


7 เดือนผ่านไป ไวเหมือนโกหกค่ะ บัดนี้ยัยกะทิได้กลายเป็น...อิ่วัวเผือกประจำครอบครัวไปซะละ


เหนียงก็ออก พุงก็ยาน หนอกก็ห้อย..กะทิกลายเป็นที่รักของทุกคน ไม่เว้นแม้แต่นายแม่..♥


กินอิ่ม..นอนหลับ ที่สำคัญมีคนที่กะทิมั่นใจได้ตลอดเวลาว่าจะรักกะทิไปจนกว่าจะสิ้นอายุขัย


ในตอนหน้าของบล็อกยัยกะทิ เรามาดูภาพประทับใจในวันขี้อ้อนของมันกันนะคะ ♥



เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai


ไปดูความคืบหน้าของสองแสบ


ช่วงนี้ดวงเดินทางกำลังโคจรรอบดาวแม่ T^T เพราะต้องขึ้นล่องพิษณุโลก-สุพรรณบุรีเป็นว่าเล่น ไอ้ที่คิดจะไปรับไอ้เจ้าสองแสบหลานแมวของยัยกะทิเข้าตึกจากร้านหมอ ก็เลยต้องเลื่อนแล้วเลื่อนอีก จนกระทั่งเมื่อวานนี้พอจะมีเวลาก็เลยรีบรี่จิ่ไปรับ

วินาทีแรกที่สองแสบเห็นอิชั้น มันทำหน้างง ๆ ฮ่ะ เอิ๊กกก.....คงคิดว่่า ยัยตัวเล็กนี่ใครฟระ ใช่คนที่พาเรามาทิ้งให้ถูกอาบน้ำ,กำจัดหมัด,เอาเข็ม(วัคซีน)จิ้ม รึเปล่าหว่า...แต่พออิชั้นทักทายคำแรกเท่านั้น สองแสบก็มีอาการเช่นนี้...


"แอ๊ววว...อิ่เจ๊ของหนูนี่เอง..เอาหนูออกไปที หนูอยากกลับบ้าน แอ๊ววว... >0</"


"ใจเย็นลูก..555+ เดี๋ยวรอพี่เค้าเอาตะกร้ามาให้ก่อน วันนี้กลับบ้านกันเนอะ หนูจะมีบ้านอยู่กันละ ♥" อิชั้นพยามคุยกับมันฮ่ะ จริง ๆ อิชั้นว่ามันฟังรู้เรื่องแหละ เพียงแต่พูดสื่อสารออกมาเป็นภาษาคนไม่ได้เท่านั้นเอง....ดูมันทำท่าดิ่


เจ้าแสบที่ดูเหมือนจะเป็นตัวผู้พยายามเอาหัวชนกรงเต็มที่ คงคิดว่าตัวเองมีพลังงานบางอย่างที่จะแทรกออกตัวออกจากกรงได้สินะ >.<


เท่าที่สังเกตดู งวดนี้สองแสบตัวขาวขึ้นกว่าตอนที่พามาวันแรกเยอะเลยฮ่ะ จากอิ่แมวเด็กรูตะหมูกดำ หูดำ หางดำ ซอกเล็บดำ ตรูดดำ ตอนนี้เริ่มขาวโอโม่ขึ้นมาหน่อยนึงละ แม้ว่าส่วนหางจะดูเหลือง ๆ แต่อิ่เจ๊ก็บ่ยั่น..จริง ๆ แมวจะเป็นสีอะไร สวยแค่ไหนอิชั้นไม่สนใจหรอกฮ่ะ สิ่งสำคัญเหนืออื่นใดก็คือ มันเป็นแมวที่จะได้รับความรัก และจะเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัวจนสิ้นอายุขัยของมันต่างหาก


พอน้องผู้ช่วย เอาตะกร้าชมพูใบที่ใส่มามาใส่สองแสบให้เรียบร้อย อิชั้นก็เลยหิ้วออกไปตั้งหน้าร้านหมอ เพื่อที่จะรอจ่ายเงินค่าฝาก,ค่าอาบน้ำ,ค่าวัคซีน นึกว่าจะได้กลับบ้านด้วยกันวันนี้แล้วเชียว จู่ ๆ แฟนหมอก็บอกว่า

"เอิ่ม..พี่คะ เอาฝากไว้ที่นี่อีกสักวันได้มั้ยคะ พอดีพรุ่งนี้น้องมีนัดฉีดวัคซีนป้องกันลูคีเมียแมวอีกเข็มหนึ่ง"

อ้าว..เง้อ..นี่ถ้าอิชั้นเอาน้องกลับไป ก็หมายถึงพรุ่งนี้อิชั้นก็ต้องหอบมันกลับมาร้านหมออีกรอบงั้นสิเนี่ย

"งั้นก็ได้ค่ะ..งั้นพี่เอาไว้ที่นี่อีกวันนึงละกันเนอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้บ่าย ๆ จะมารับกลับ แล้วจะพายัยกะทิมาฉีดวัคซีนด้วย"


สรุปว่า..สุดท้ายสองแสบก็ยังไม่ได้ออกจากร้านหมอเลยค่ะ ก็คงจะได้กลับบ้านกันวันนี้แหละ ก็ดีเหมือนกัน เพราะอิชั้นก็คงต้องรีบกลับไปเตรียมความพร้อมที่ตึก ว่าจะเอายังไงดี..งานนี้กะทิต้องเจอศึกหนักเพราะต้องมีสมาชิกแปลกหน้าเข้ามาแหยมในบ้านตัวเองถึงสองตัว..

กลับมาติดตามความคืบหน้าของสองแสบกับหนึ่งวัวเผือกว่าจะเข้ากันได้ดีรึเปล่ากันในครั้งหน้านะคะ



เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai