วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ทีี่นี่คือ..บ้าน


นับเนื่องมาจากรับตัวยัยกะทิมาอยู่ด้วยที่ตึก ก็กินเวลาเกือบหกเดือนแล้วฮ่ะ ระยะเวลาเกือบครึ่งปีที่ผ่านมาดูเหมือนจะนานพอที่ยัยกะทิจะรู้ ว่าที่นี่คือบ้าน..ดังนั้น ไอ้อาการที่อิชั้นกลัว ว่าพอหลุดผลั๊วะออกจากประตูกรง หรือหลุดมือออกจากประตูออฟฟิศแล้วกะทิจะวิ่งหนีหางชี้เด่ให้อิ่เจ๊มันตาเหลือก จึงแทบไม่ปรากฎให้เห็นอีก

แต่กระนั้น..แม้ว่าจะค่อนข้างมั่นใจละ ว่ากระทิจะไม่วิ่งหนีเตลิดออกจากบ้าน แต่อิชั้นก็ยังไม่วางใจอยู่ดีแหละ ดังนั้นทุกครั้งที่พายัยกะทิออกมาเดินเล่น อิชั้นก็เลยจะต้องใส่สายจูงให้มันไว้ก่อน ไม่ใช่เพื่อจองจำมันนะ อิชั้นว่าเพื่อความอุ่นใจของตัวเองมากกว่า

แต่ถึงใส่สายจูงก็ไม่ได้มีปัญหากับกะทิแต่อย่างใดฮ่ะ กะทิก็ยังคงเป็นกะทิ ที่รื่นเริงได้ทุกที่ พาอิ่เจ๊มันมุดสุมทุมพุ่มไม้ให้สายจูงมันพันกันเล่นๆ ได้อย่างมีความสุข >.<


สิ่งที่แตกต่างไปอีกอย่างหนึ่งของช่วง 1-2 วันนี้ ก็คือแม้ว่าอิชั้นจะปล่อยสายจูงยาว ๆ ให้กะทิได้รู้สึกเหมือนได้เิดินเที่ยวแบบอิสระได้เต็มที่ (อิชั้นต่อเชือกสายจูงยาวถึงเกือบ 10 เมตรแน่ะ)แต่กะทิก็ไม่ได้นึกอยากจะวิ่งหนี หรือเดินห่างจากอิชั้นเท่าไหร่นัก สังเกตได้ว่า พอมันเดินไปไกลสัก 3-4 เมตร ก็จะหันกลับมามองอิชั้น ก่อนจะเลี้ยวกลับมาให้อิชั้นลูบตัวให้ คิดว่ามันคงอุ่นใจที่อิชั้นเดินเล่นด้วยอ่ะ (เป็นฟามภาคภูมิใจของอิ่เจ๊มันสุด ๆ )


อย่ากระนั้นเลย ไหน ๆ วันนี้ก็วันศุกร์แระ เรามาดูกิจกรรมยามเดินเล่นอย่างมีความสุขของยัยกะทิกันนะคะ :)




เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai




วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556

อิ่เจ๊ กับการรีวิวกล้องหน้า oppo find mirror


เฮือก..ช่วง 3-4 วันนี้งานชุกมากเลยฮ่ะ T^T อะไรต่อมิอะไรก็ไม่รุ มะรุมมะตุ้มอิชั้นไปหมดเลย ทั้งงานราษฎร์งานหลวงงานกระทรวงทบวงกรม (อันหลัง ๆ นี่คิดว่าไม่เกี่ยว) บ่องตงฮ่ะ..อิชั้นล่ะเกลี๊ยดด..เกลียดเดือนกันยายน..มันช่างเป็นเดือนแห่งความโหดร้ายไปซะทุกปียิ่งนัก

เอ้า..มาถึงการ รีวิวกล้องหน้า จากมือถือ oppo find mirror กันมั่ง ก็อย่างที่หลาย ๆ คนรู้กันดีฮ่ะ ว่าเดี๋ยวนี้มือถือเกือบทุกยี่ห้อในท้องตลาดมักจะมีฟีเจอร์ทั้งกล้องหน้ากล้องหลัง ซึ่งสำหรับคนที่ชอบการถ่ายรูปตัวเองแบบอิชั้น การจะเลือกซื้อมือถือสักเครื่องนึง มันต้องมีดีที่กล้องหน้าเป็นหลักอยู่แล้ว

ก่อนซื้อไอ้เจ้า oppo find mirror ซึ่งเป็นมือถือตัวใหม่ล่าสุด ระดับไฮซ้อแบนด์จีนตัวนี้ อิชั้นก็มีน้อง oppo find gemini ใช้อยู่ก่อนแล้วตัวนึงฮ่ะ และค่อนข้างประทับใจในตัวกล้องทั้งด้านหน้าและด้านหลังกว่ายี่ห้อที่เคยใช้มา ดังนั้นพอคิดจะเปลี่ยนมือถือ อิชั้นก็เลยเลือกที่จะใช้ oppo อีก

สำหรับกล้องหลังนั้นอิชั้นรีวิวคร่าว ๆ ไปในคราวที่แล้วแล้วน่ะนะคะ ทีนี้มาถึงความสามารถของกล้องหน้าน้อง oppo find mirror กันบ้าง เจ้ามือถือออปโป้รุ่นนี้ มีความละเอียดกล้องหน้าอยู่ที 2 ล้านพิกเซลฮ่ะ จุดเด่นก็คือ เป็นกล้องหน้าที่มีการเลือกใช้เลนส์ไวด์ เพื่อให้การเก็บภาพในมุมกว้างทำได้มากกว่ามือถือรุ่นอื่น ซึ่งไอ้เจ้าจุดเด่นที่ว่านี่ล่ะ ที่แค่ถอยออกมาใช้วันแรก อิชั้นก็อยากจะเอาไปคืนซะละ

เหตุผลคืออะไรเดี๋ยวเราลองมาฟังกันดูฮ่ะ

สำหรับคนที่รักการถ่ายรูปด้วยกล้องหน้ามือถือแบบอิชั้นและสากลโลก สิ่งหนึ่งที่อยากได้ก็คือ กล้องมือถือที่ถ่ายตัวเองออกมาแล้วดูสวย ซึ่งอิ่ตรงจุดนี้อิชั้นไม่ค่อยวอรี่เท่าไหร่ฮ่ะ เพราะปัจจุบันมีโปรแกรมต่้าง ๆ มากมายที่จะช่วยให้การถ่ายรูปตัวเองออกมาสวยกว่าตัวเองประมาณ 110% (555+) อย่างเช่น camera 360 องศาเป็นต้น แต่สำหรับ oppo find mirror ด้วยความที่เป็นเลนส์ไวด์ ทำให้อิชั้นค้นพบว่ามันช่างไม่เหมาะสำหรับการถ่ายตัวเองซะนี่กระไร เพราะพอลองถ่ายแล้ว สัดส่วนของภาพที่ได้ มันผิดปกติซะงั้น

อันดับแรกของข้อด้อยหลังการทดลองใช้งานน้องอ๊อปมา 1 อาืทิตย์ อิชั้นก็พบว่า กล้องตัวนี้เหมาะสำหรับการถ่ายรูปหมู่มากกว่ารูปเดี่ยว เหมาะสำหรับการถ่ายแนวนอน มากกว่าแนวตั้ง และเหมาะสำหรับการถ่ายที่มีการวางตำแหน่งของผู้ถูกถ่ายไว้ตรงกลางกล้องแต่ิเพียงตำแหน่งเดียว เนื่องจากเมื่อเราถ่ายแนวนอนและวางตำแหน่งคนไว้ทางด้านข้าง จะทำให้สัดส่วนร่างกายของคนถูกถ่าย ยืดย้วยออกด้านข้าง หน้าก็ยืดเบี้ยวไปข้าง ๆ แลดูแบน ๆ T^T ไม่สวยงามอย่างแรง และหากจับตัวกล้องในแนวตั้ง ภาพที่ได้ก็จะดูหัวยาวและส่วนลำตัวที่ต่ำกว่าเอว ยาวววว..ผิดปกติ เป็นที่น่าอเน็จอนารถสายตาแก่ผู้พบเห็น เรียกว่าถ้าคนที่ชอบเอากล้องหน้าถ่ายตัวเองแบบ head shot กล้องตัวนี้ไม่เหมาะเป็นอย่างยิ่งอ่ะนะคะ

พูดด้วยปาก อาจจะไม่เห็นภาพ อิชั้นว่าเอาภาพจริง ๆ มาลงไว้เป็นตัวอย่างกันเลยดีฝ่าฮ่ะ เราลองมาดูภาพตัวอย่างของกล้องหน้า oppo find mirror ในมุมต่าง ๆ กันนะคะ

อันดับแรก เริ่มกันที่การจับกล้องถ่ายในแนวนอน ในตำแหน่งที่คนถ่ายอยู่ตรงกลางภาพค่ะ ยังใช้ได้อยู่นะ ไม่มีไรผิดปกติ แม้ภาพจะติดเขียวไปสักนิดโดยเฉพาะในที่แสงน้อย แต่ก็ยังสวยใช้ได้อยู่ (หมายถึงนางแบบชิมิ..กร๊ากกก..)


มาถึงการวางตำแหน่งคนถูกถ่ายไว้ด้านข้างกันบ้าง..จะเห็นได้ว่าสัดส่วนของคนเริ่มย้วย หน้าเริ่มแปลก ๆแระ..T^T (อ้าว ไม่ได้แปลกตั้งแต่ก่อนใช้กล้องหรา 5555+)


ทีนี้ก็มาถึงภาพที่แสดงให้เห็นถึงข้อด้อยอีกประการของ oppo find mirror กันอีกข้อนึงค่ะ พอคุณจับกล้องถ่ายในแนวตั้ง หัวคุณจะยืดดด..กลายเป็นนางแบบบนซองยาแก้บวดหายแบบเน้ >0</


สรุปว่า กล้องหน้า oppo รุ่นนี้ เป็นรุ่น "ฮาดี" ฮ่ะ 555+ ตอนนี้ก็เลยมีดำริจะซื้อมือถือใหม่อีกตัว เืพื่อให้การใช้งานกล้องหน้าถูกใจมากกว่านี้ T.T เอาเป็นว่าใครที่กำลังมองฟีเจอร์ของกล้องในมือถือ oppo find mirror ก็ลองชั่งใจคิดดูละกันนะคะ ว่าชอบภาพจากกล้องหน้าแบบที่อิชั้นรีวิวมั้ย ถ้าไม่..ก็แนะนำให้ผ่านรุ่นนี้ไปดีกว่าค่ะ..



เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai








วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556

กะทิ กับการรีวิวกล้องหลัง Oppo Find Mirror


ปกติแล้ววันไม่ว่างของอิ่เจ๊ ก็ยังเป็นวันว่างของกะทิอยู่ดีฮ่ะ แหะ ๆ..ที่พูดได้แบบนี้ก็เพราะทุกครั้งที่อิชั้นไปนั่งเซ็นต์งานที่ตึก ยัยกะทิจะได้รับอนุญาตให้ออกมาลั้นลานอนเล่น วิ่งเล่น ป่วนคนนั้นนิดคนนี้หน่อยอยู่ในออฟฟิศด้วย ดังนั้น ไม่ว่าอิ่เจ๊มันจะหัวฟูหูตูบกับงานที่ต้องสะสางบนโต๊ะสักเพียงไร ยัยกะทิก็ยังมีโอกาสได้ออกมาลั้นลาอยู่ข้่างกายได้ทุกครั้ง

ถามว่าแล้วเข้ามาอยู่ในออฟฟิศ ยัยกะทิเล่นอะไร..ปกติแล้วอิชั้นก็ไม่รู้หรอกนะคะ ว่าพวกแมว ๆ มีวิธีเล่นอะไรมั่ง เพราะเป็นอิ่เจ๊เองก็ถือว่าเป็นมือใหม่สำหรับพวกแมว ๆ ทั้งหลาย โดยเฉพาะยัยกะทิ แต่สำหรับตัวยัยกะทิเองแล้ว การเล่นของมันก็มีไม่กี่อย่างฮ่ะ ที่โดดเด่นจนอยากจิกหูก็คือ การเล่นซ่อนแอบกับอิชั้นนี่ล่ะ ซึ่งก็ไม่รู้มันสนุกมากรึไงกันถึงได้ชอบเข้าไปแอบตามชั้นวางเครื่องนอนแขกรายวันนัก นอกจากนั้นก็มีการวิ่งแข่ง 1x700 คือวิ่งแม่มมันอยู่ตัวเดียวนั่นล่ะ โดดดึ๋ง ๆ ขึ้นไปตรงโน้นมั่งตรงนี้มั่ง ให้คนอื่นเค้าตกใจเล่น (นี่แกเป็นตัวอัลไลกันแน่ยะ) การละเล่นอีกอย่างที่ถูกใจยัยกะทิก็คือ การเล่น กัด ถีบ ข่วน จิก อิ่เจ๊มันฮ่ะ T^T อิชั้นก็ไม่เข้าจาย..ว่ามันหมั่นเขี้ยวอะไรมากมายอิชั้นนัก ทุกครั้งที่มีโอกาสได้จกพุงมัน ก็จะต้องลงเอยด้วยการถูกกะทิใช้อุ้งมือมารที่อยู่ในคราบของอุ้งมือแมวมาตะปปแล้วเอาไปงับๆ ถีบๆ ซะทุกที

อ่ะเข้าเรื่อง ๆ 555+ เมื่อหลายวันก่อนนี้อิเจ๊มันได้่มือถือมาใหม่เครื่องนึงฮ่ะ เป็นมือถือจากจีนยี่ห้อ Oppo Find Mirror เรื่องของเรื่องก็คือ อิ่เจ๊ของยัยกะทิชอบถ่ายรูปด้วยกล้องหน้ามากกก..คืิอคุณสมบัติเด่นที่ต้องการมากที่สุดในมือถือ ก็คือเรื่องกล้องหน้านี่ล่ะ (อ้าว..ไม่ใช่ฟีเจอร์ด้านการโทร.หรอกรึ กรั่ก ๆ ๆ ) หลังจากหาข้อมูลมาประมาณ 2 ชาติเศษ ก็ได้ฤกษ์ถอยมือถือใหม่ซะที งวดนี้หวยมาออกที่น้อง Oppo Find Mirror ซึ่งเป็นมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดของตระกูล ออปโป้ ฮ่ะ ด้วยคุณสมบัติโดดเด่นก็คือ กล้องหลังที่มีความละเอียดถึง 8 ล้าน มีไฟแฟลช และมีกล้องหน้าระดับ 2 ล้านที่ใช้เลนส์ไวด์ ดังนั้นภาพจากกล้องหน้าจึงเป็นภาพที่จะได้มุมกว้างมากกว่ากล้องจากมือถือยี่ห้ออื่น หลังจากใช้งานน้องออปโป้มา 4-5 วัน อิชั้นจึงได้ข้อสรุปดังนี้

กล้องหลังของออปโป้..ทำได้ดีสมราคาคุยค่ะ คือได้ภาพที่สวย สีสันถูกใจ การเปิดเพื่อใช้กล้องทำได้รวดเร็ว สปีดชัดเตอร์ทำงานได้ในเวลาอันสั้น จึงสามารถเก็บภาพได้อย่างรวดเร็วทันใจ แม้ในสภาพแสงน้อย ภาพที่ได้คมชัด จนแทบไม่เชื่อสายตาว่านี่คือภาพจากมือถือ เราลองมาดูตัวอย่างภาพยัยกะทิจากกล้องหน้าของ Oppo Find Mirror กันสักสองภาพนะคะ


โว๊ะ..ภาพที่ได้ประทับใจมากฮ่ะ >0</..นี่คือภาพจากกล้องหน้าที่ไม่ได้ผ่าน app หรือฟีเจอร์ใด ๆ ทั้งนั้นนะฮะ เรียกว่าใช้กล้องหน้าอย่างเดียวเพียว ๆ เลย หนวดเป็นหนวด ขนเป็นขน เหนียงเป็นเหนีียง ถูกใจอิ่เจ๊จริง ๆ ^^


เสียดายที่เมื่อวานมีเวลาถ่ายรูปยัยกะทิน้อย เพราะมัวแต่นั่งเซ็นต์งานอยู่ บล็อกยัยกะทิในตอนหน้า เราจะมารีวิวกล้องหน้าของน้อง oppo find mirror กันบ้าง แล้วกลับมาพบกับกะทิได้ใหม่ในครั้งหน้านะคะ


เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai


อาหารแมวแก่


อาหารสำหรับแมวที่มีอายุมากแล้วนั้น ย่อมแตกต่างจากอาหารแมวเด็ก และแมวโตเต็มวัยน่ะนะคะ เนื่องจากการใช้ชีวิตและการใช้พลังงานในแต่ละวัยของแมวย่อมแตกต่างกัน ดังนั้น ความต้องการปริมาณอาหารและสารอาหารที่จำเป็นจึงแตกต่างกันไปในแมวแต่ละวัยด้วย


แต่ถ้าจะถามว่า อายุเท่าไหร่ของแมว ถึงจะจัดได้ว่าเป็น แมวแก่ ส่วนใหญ่แล้วแมวที่มีอายุมากก็คือแมวที่มีอายุประมาณ 5 ปีขึ้นไปค่ะ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับอายุของคนแล้ว แมวอายุ 5 ปี ก็จะมีอายุเท่ากับคนที่อยู่ในวันผู้ใหญ่เต็มที่ ซึ่งจะมีอายุราว 33-48 ปี

แมวที่มีอายุมากนั้น ร่างกายก็จะมีความต้องการพลังงานน้อยลง เนื่องจากมีกิจวัตรประจำวันที่แตกต่างไปจากแมวเด็ก อีกทั้งแมวที่มีอายุมาก มักจะไม่ค่อยกระฉับกระเฉง การวิ่งเล่นออกกำลังกายก็ลดน้อยลงตามอายุ บางตัวใช้เวลาทั้งวันไปกับการกินและนอน นอนแล้วก็ลุกขึ้นมากิน ดังนั้น จึงทำให้ประสิทธิภาพในการย่อยอาหารและการขับถ่ายเริ่มหย่อนยานลง

โดยหลัก ๆ แล้ว อาหารของแมวแก่ หรือแมวที่มีอายุมากนั้น ต้องเป็นอาหารที่ย่อยง่ายค่ะ นอกจากนั้นยังต้องมีปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากไป ไม่น้อยไป อาหารที่เหมาะสำหรับแมวแก่ควรเป็นเนื้อที่ไม่มีพังผืด อาหารที่ไม่มีไขมันหรือน้ำตาล เพราะจะทำให้อ้วนง่าย ควรให้อาหารประเภทแป้ง วิตามิน เกลือแร่ต่าง ๆ เพื่อใช้ในการบำรุงร่างกายในปริมาณที่เหมาะสม อย่าให้อาหารมากไปจนทำให้เกิดภาวะของการเป็นโรคอ้วน เนื่องจากแมวที่อ้วนมักมีภาวะของการเป็นโรคต่าง ๆ สูง อาทิเช่น โรคตับ โรคหัวใจ โรคข้อกระดูกเสื่อมเนื่องจากปัญหาเกิดแรงกดทับข้อต่อต่าง ๆ ของน้ำหนักตัวแมว ดังนั้นการดูแลให้แมวของเรามีสุขภาพและน้ำหนักที่เหมาะสม จึงเป็นเรื่องที่คนรักแมวอย่างเราทุกคนควรให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ เช่นกันน่ะนะคะ


อ้างอิงข้อมูลจาก dogacat.com
ภาพประกอบจาก marshallforum.com

วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2556

อาหารแมวท้อง



หลังจากหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของอาหารที่เหมาะสมสำหรับแมวที่ืตั้งท้องในอินเตอร์เน็ตมาสักพัก แอดมินก็พบว่า ข้อมูลที่ได้รับนั้นมักจะเหมือน ๆ กันจนน่าตกใจฮ่ะ คือจริง ๆ แล้วก็พอจะทราบมานานแล้วว่า ส่วนใหญ่ข้อมูลที่กระจายอยู่ในเน็ตนั้นก็คือข้อมูลที่คัดลอกกันไปคัดลอกกันมา (ฮ่วย) ทำให้คนที่เข้ามาอ่านไม่ค่อยได้รับความรู้ที่แปลกใหม่ ไอ้ครั้นจะไปหาข้อมูลจากแหล่งอื่น ก็ดูเหมือนจะยาก ยิ่งตัวเองไม่ใช่สัตวแพทย์ซะด้ิวย ก็เลยยิ่งทำให้ข้อมูลที่พยายามจะรวบรวมแล้วสื่อสารออกไป มีจำกัดยิ่งนัก

อย่างไรก็ตามฮ่ะ ในวันนี้ไหน ๆ ก็ยังอยู่ในช่วงการเขียนไดอารี่่บทความเกี่ยวกับเรื่องอาหารแมว เราก็คงจะพูดถึงเรื่องการให้ อาหารแมวท้อง กันสักนิดนึงเนาะ เรามาดูกันค่ะ ว่าในช่วงที่น้องแมวของเราท้องนั้น ต้องได้รับอาหารที่เหมาะสมอย่างไรบ้าง


โดยปกติแล้ว แมว จะ ตั้งท้อง นานประมาณ 58 - 68 วัน ค่ะ โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 63 วันหรือ 9 สัปดาห์ ซึ่งหากเป็นแมวเปอร์เซียจะท้องนานกว่าแมวไทยเล็กน้อย ในระหว่างที่แมวตั้งท้อง การดูแลแม่แมวให้มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดีก็เป็นเรื่องที่เจ้าของแมวควรใส่ใจด้วยนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการให้อาหาร เนื่องจากแม่แมวในช่วงนี้นอกจากจะต้องการอาหารเพื่อให้ร่างกายตัวเองมีพลังงานแล้ว ยังต้องการสารอาหารที่จะส่งต่อไปยังลูกแมวที่อยู่ในท้องด้วย

อาหารที่ใช้เลี้ยงแมวท้องนั้น โดยหลัก ๆ แล้วจะต้องมีคุณภาพสูงค่ะ มีโปรตีนมาก (นม,ไข่ต้ม) ไขมันน้อย โดยอาจให้วิตามินเสริมที่จำเป็นร่วมด้วย(ควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนทุกครั้ง) ขนาดและปริมาณอาหารในช่วงที่ตั้งท้อง 5-6 อาทิตย์แรก ให้ทำการให้อาหารเท่ากับที่ใช้ก่อนตั้งท้องค่ะ จากนั้นค่อยเพิ่มปริมาณให้มากขึ้นตามน้ำหนักตัวของแมวในช่วง 3 อาทิตย์สุดท้ายก่อนการคลอด คือให้เพิ่มอาหารขึ้นราว 10-20%

เมื่อแม่แมวจะคลอด ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ค่อยกินอาหารในช่วง 1-2 วันก่อนคลอดค่ะ เนื่องจากอาจมีอาการเจ็บท้องและกังวลเกี่ยวกับการหาสถานที่คลอด ข้อสำคัญก็คือ พยายามอย่าขุนแมวจนอ้วนเกินไปนักเพราะอาจทำให้แมวคลอดลูกลำบาก หรืออย่าจำกัดอาหารจนแมวผอมจนไม่มีแรงคลอดลูกด้วยนะคะ

ในตอนหน้าของบล็อกยัยกะทิ เราจะมาดูอาหารของแมวที่มีอายุมาก หรือแมวแก่กันบ้างค่ะ แล้วกลับมาพบกันได้ใหม่ในครั้งหน้านะคะ



เรียบเรียงข้อมูลจาก dogacat.com