วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เกี่ยวก้อยกันเถิดดด...


เดี๋ยวนะ..ก่อนจะเขียนไดอารี่ยัยกะทิ อิชั้นสงสัยว่า ไอ้ชื่อหัวไดอารี่วันนี้มันเกี่ยวอัลไลกับเนื้อเรื่องฟระ..ครึ ครึ..


ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ชีวิตอิ่เจ๊ก็ยังคงหมุนวนเวียนเทียนกันไปเป็นปกติฮ่ะ นอกจากงานการเล็กๆ น้อยๆ ที่คอยไปดูแลทุกวันแล้วก็มีเด็กแสบที่ตึกนี่แหละ ที่เป็นห่วงรัดคอ ไม่ให้ไปไหนได้ไกลมาก เพราะนอกจากจะต้องไปดูแลให้อาหารเปียกสองแสบช่วงบ่ายเองแล้ว ช่วงหลายวันหลังนี่ สองแสบยังได้รับอนุยืดให้ออกมาเดิน วิ่ง เป็นลิงเป็นค่างนอกออฟฟิศวันละพักนึงด้วย


แต่การจะปล่อยสองแสบออกมานั้น ไม่ใช่ว่าจู่ๆ นึกอยากจะปล่อยก็ปล่อยนะฮะ ก็อย่างที่เคยบอกไว้ในไดอารี่หน้าก่อนๆ ว่าปกติแล้ว สองแสบเองนั้นไม่เคยออกมาเล่นนอกออฟฟิศตามลำพังโดยไม่มีสายจูง (เคยทดลองช่วงแรกๆ ที่รับตัวกะทิมาฮ่ะ แต่ไม่ไหว ตามจับไม่ไหว แก่แล้วก็งี้ วิ่งไม่ทันหมาแมวแล้วแหละ) เนื่องจากกลัวว่าคุณเธอจะเล่นเพลิน ไม่ยอมให้จับกลับเข้ากรง แถมยังเกรงว่าจะโดดดึ๋งๆ ไล่ตามนก ตามจิ้งจก กิ้งกือเข้าไปในบริเวณตึกหรือบ้านคนอื่น แล้วก็หายจ้อยไป จะด้วยตัวเองหรือน้ำมือของคนที่อุ้มไปก็ไม่รู้แหละ ดังนั้นทุกครั้งที่สองแสบได้ออกมาเดินนอกออฟฟิศ มันก็จะต้องมีเชือกร่มเส้นเล็ก ๆ ผูกจูงเอาไว้ทุกครั้ง เพื่อป้องกันเหตุการณ์อันไม่คาดคิดที่อาจจะเกิดขึ้น..


แต่ไม่ต้องปริวิตกไปฮ่ะ สายจูงที่อิ่เจ๊ผูกสองแสบก่อนพาเดินเล่นนั้น ต้องบอกว่ายาวมาก..ยาวเกือบถึงสุไหงโกลกกันเลยทีเดียว แถมวิธีจูงก็ต้องมีเทคนิคด้วยนะฮะ คืออิ่เจ๊จะปล่อยเชือกจูงให้ทอดยาวตามความจำเป็น เช่น...เวลาสองแสบคึก..นึกอยากจะวิ่ง...(ซึ่งแน่นอนว่าอิ่เจ๊เองก็คงจะใส่ติงหมาตามติงแมวไม่ทันอยู่แระ) ...อิ่เจ๊ก็จะปล่อยเชือกให้ทอดยาวเท่าที่มันอยากวิ่ง และด้วยความที่เชือกสายจูงมันยาวมาก (คะเนด้วยสายตา น่าจะยาวประมาณ 15 เมตรได้ !!) กะทิและโกกิ จึงวิ่งสนุกได้ตามใจชอบ ซึ่งก็นะ...มันวิ่งกันไม่ไกลหรอก อย่างมากก็วิ่งไปจนเกือบจะสุดสายจูง แล้วก็หยุดกึ้ก..หันมามองอิ่เจ๊ด้วยความสงสัย ว่าทำไมอิ่เจ๊ไม่ตามหนูวะ ?? แล้วก็หันหลังกลับ เดินนวยนาดมาเอาตัวสีๆ ขาอิ่เจ๊ใหม่ เดาเอาว่านอกจากอิ่เจ๊จะกลัวมันหายแล้ว..มันคงกลัวอิ่เจ๊หายด้วย หึหึ..โดยเฉพาะกะทิ ซึ่งเมื่อก่อนนี้พอได้ออกจากออฟฟิศทีไร แม่มมม...สนุกจนลืมโลกทุกที คือมันพยายามจะหนีไปเที่ยวตึกข้างๆ ประจำอ่ะนะ แถมวันไหนที่บังเอิญหลุดออกไปนอกออฟฟิศได้ ก็อย่าหวังเลยว่าจะจับตัวกันได้ง่ายๆ เลย แล้วคิดดู..ว่าไอ้การไล่จับแมวที่มีสี่ติงแถมโกยแน่บได้ไวยิ่งกว่าลิงอ่ะ มันจะยากแค่ไหน วิธีการป้องกันปัญหานี้ก็คือ อย่าปล่อยให้มันหลุดออกไปได้เป็นอันขาด (เด็ดมะ ? T^T) คืออิ่เจ๊และผู้คนในหมู่ออฟฟิศเข็ดแล้วอ่ะ..หลุดกันที T25 ไม่จำเป็นกันเลยทีเดียว....


แต่ช่วงหลังๆ นี่กะทิทำตัวน่ารักมากฮ่ะ แม้ว่าจะมีสายจูงยาวๆ คอยผูกคออยู่ ไม่ให้เตลิดไปไหนโดยควบคุมไม่ได้ และแม้ว่าอิ่เจ๊จะตามใจให้วิ่งไกลๆ ได้ตามใจชอบ แต่ทุกครั้งที่ได้ออกมาเดิน กะทิก็จะเดินชมนกชมไม้ไปเรื่อย เห็นขนนกตกอยู่ก็วิ่งงงง..ไปเล่น ทิ้งตัวลงนอนเกลือกพื้น กลิ้งไป กลิ้งมา นอนอาบแดดเหมือนแมวชาติตะวันตก (ประมาณชาติหน้าขนแกถึงจะขึ้นเป็นสีแทนได้อ่ะนะ) วิ่งไปเล็มหญ้าหลังตึก (มโนไปว่าตัวเองเป็นวัว) ไล่นก ตกแมงปอ แต่พอสนุกจนพอใจสักพัก ก็จะวิ่งกลับมาให้อิ่เจ๊ลูบเนื้อลูบตัวให้ แล้วก็เอาตัวสีๆ กลิ้งๆ แทบเท้าเจ๊ ท่าทางมีความสุขมากๆ อ่ะ เห็นแบบนี้แล้ว อิ่เจ๊ก็ยอมดำสุดชีวิต คือต้องพาออกเดินท่อมๆ กลางแดดสี่โมงเย็นเกือบทุกวัน (ที่อิ่เจ๊เข้าประกวดมิสไทยแลนด์เวิร์ลไม่ทันก็เพราะบ่มผิวไม่ทันนะ..เข้าใจตามนี้นะ กร๊ากกก..) สถานการณ์ความดำก็เลยเข้าขึ้นตึงเครียดเข้าไปทุกที


ส่วนยัยโกกิ เปรียวกว่ากะทิเล็กน้อยฮ่ะ คือคุณเธอชอบที่จะเดินเล่นล่ะ แต่ไม่ยักกะใส่ใจอิ่เจ๊นัก คือเมื่อตรูได้ออกมาเดิน โลกทั้งใบก็เป็นของตรู..อิ่เจ๊ไม่เกี่ยว !! นึกอยากจะวิ่ง พี่ก็วิ่ง นึกอยากจะมุดพี่ก็มุด คือนอกจากพี่จะเป็นแมวแล้ว พี่ยังเป็นนินจาด้วยป่าวคะ..แต่ก็เอาเหอะ ใช่ว่าจะได้ออกมาเดินเล่นกันได้บ่อยๆ ซะเมื่อไหร่ล่ะ จะมุด จะวิ่ง จะดื้อยังไงเจ๊ก็ยอม ขอแค่เอร็งได้มีเวลาสนุกกับคำว่าอิสระเสรีแต่พอตัวบ้างก็ดีละ..


นอกจากนั้นเวลาปล่อยสองแสบมาเดินเล่น ก็ต้องพาออกมาทีละตัวฮ่ะ แล้วไอ้เจ้าสองตัวนี่ก็รู้มาก พออิ่เจ๊เอาเชือกจูงออกมาปั๊บ ก็มานอนแผละ รอกันเลย คงรู้อ่ะเนาะ ว่าจะได้ออกไปวิ่งเล่น เดินเล่น ซึ่งแน่นอนว่าอิ่เจ๊มักจะพากะทิออกมาก่อนเป็นตัวแรก เพราะไอ้กิมันไม่ค่อยเรื่องมาก (แต่กะทิไม่ได้เลยฮ่ะ ถ้าน้องได้ออกมาก่อน มันจะร้องเมี๊ยวม๊าว ประท้วงกันจนบ้านแทบแตก) แต่ไอ้ที่ฮาก็คือ...เวลาเดินอย่าให้ตัวนึงเห็นอีกตัวนะคะ ไม่งั้นจะเป็นแบบนี้


แบบนี้...


แบบนี้...


และแบบนี้...


คือเจ๊ก็ไม่เข้าใจว่าเอร็งจะรักอะไรกันนักหน๊าาาา...555+ ในภาพนั้นก็คือยัยกะทิพยายามจะโดดกลับเข้าไปพาน้องออกมาเดินเล่นอ่ะนะคะ ซึ่งบอกเลยว่ามันเป็นไปได้ยากที่จะพาสองแสบออกมาเดินพร้อมๆ กัน นอกเสียจากมีใครอีกคนที่ไว้ใจได้มากพอที่จะรู้เทคนิกการจูงเด็กแสบพวกนี้


แต่ก็เอาเหอะ..เอร็งรักกัน เจ๊เข้าจาย....... ♥♥

ในตอนหน้าของไดอารี่ยัยกะทิ เราจะแบกชั้นวางแมวมาซ่อมที่ลับเล็บสองแสบกันนะคะ แล้วกลับมาพบกันได้ใหม่ในครั้งหน้าค่ะ