วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ใส่ปุ๋ยเร่งโต "ห้าเด็กกรอบ" (วันที่ 4-5)


เฮือกก..อิ่เจ๊มีภารกิจจะต้องเดินทางไป ปตท. เอ๊ย..ตปท. วันจันทร์ที่นะถึงนี้นะคะ ตอนนี้ต้องรีบปั่นบล็อกเขียนไดอารี่ของเด็ก ๆ ให้เสร็จก่อน ไม่งั้นอาจเข้าสู่สภาวะจำศีล ทิ้งบล็อกได้นานหลายสัปดาห์กันเลยทีเดียว.....เรามาดูวิวัฒนาการของสัตว์โลกมุมต่ำฝูงนี้กันนะคะ (อะไรคือสัตว์โลกมุมต่ำ !!??)

แววน่ารักเริ่มมาแระ ♥
4 วันผ่านไป ไวเหมือนโกหก เด็ก ๆ ทั้ง 5 ตัว มีสัญญาณฟื้นตัวที่ดีขึ้นค่ะ ลูกน้องที่ช่วยดูแลเด็ก ๆ พวกนี้บอกว่าตอนนี้อาการไข้หวัดของเด็ก ๆ หายหมดแล้ว และอาการตาเจ็บก็ไม่ปรากฎให้เห็น กินเก่ง นอนเก่ง แต่ก็ยังมีระแวดระวังตัวกับบรรดามนุษย์โลกอยู่บ้าง ก็เป็นธรรมดาแหละเนอะ...อยู่กับแม่มาตั้งแต่เกิด วันดีคืนดีก็ได้มาอยู่กับ "แหม่ม" ซะงั้น :P

เจ้าตัวนี้ตอนพาไปหาหมอ จมูกก็เป็นแผล ในปากก็เป็นแผลค่ะ มิน่าไม่ค่อยกินข้าว แต่ได้ยาไป 3 วัน ดูดีขึ้นมากๆ
ช่วงนี้อิ่เจ๊เปิดตำราหาวิธีเลี้ยงแมวเด็กอย่างง่ายๆ เพื่อใช้อนุบาลลูกแมวไปพลาง ๆ ก่อนหาบ้านให้เจ้าตัวเล็กค่ะ สำหรับอาหารที่ใช้เลี้ยงเด็กฝูงนี้ อิชั้นใช้อาหารเม็ดฟริสกี้แช่น้ำเปล่าให้เม็ดมันพอง ๆ นิ่ม ๆ ซึ่งสังเกตว่าเด็ก ๆ จะกินกันได้เรื่อย ๆ แต่ก็มีบางตัวล่ะ ที่ติดนิสัยการดูดนมแม่มา แทนที่จะอ้าปากกินอาหารเม็ด เด็กจิ๋วพวกนี้กลับใช้วิธีดูดอาหารเม็ดจ๊วบ ๆ แทนซะงั้น (แหม่~~...คงจะได้สารอาหารอยู่หรอกนะแกนะ .. >0<)

อาหารเม็ดแม้จะเป็นของแมวเด็กแต่ก็แข็งน่าดูฮ่ะ เคี้ยวยาก เพราะฉะนั้น หยอดน้ำให้ทุกเม็ดบานฉ่ำก่อนโล่ด
นอกจากอาหารเม็ดแล้ว อิชั้นยังเสริมด้วยอาหารเปียกสำหรับแมวเด็กให้นิดหน่อยด้วย โดยจะฉีกอาหารเปียกใส่ถ้วยทิ้งไว้ให้ตอนกลางคืน เพราะหมอตูนแนะนำว่า ส่วนใหญ่แล้วพวกแมวจะหากินตอนกลางคืน (เหมือนกันเลย ?? อิ่เจ๊ก็คุ้ยตู้เย็นหาของกินตอนกลางคืนประจำ !!??) อิชั้นก็ควรจะเล่นตามน้ำ หาอาหารรอบดึกมาประเคนพวกมันใช่มั้ยคะ...

 คือ...นี่คือช่วงเวลางมหาหอยกันหรือไงยะ ??..

ให้อาหารแล้ว ก็ไม่ลืมที่จะเอาน้ำสะอาดใส่ถ้วยตั้งไว้ให้ด้วย สังเกตว่าวันแรก ๆ มันไม่กินน้ำกันเลยค่ะ (เกิดความสงสัยว่ามันกินน้ำเป็นกันป่าววะ ?) แต่พอวันถัดมา เห็นกับตาว่ามันเลียน้ำในถ้วยแผล็บๆ เออ....เอร็งเก่ง รู้จักปรับตัวเพื่อการอยู่รอดกันเองได้มั่ง


กินแล้วก็ต้องหัดให้รู้จักขับถ่ายให้เป็นที่เป็นทางด้วยค่ะ โชคดี..ยังมีกระบะทรายใบเก่าของยัยโกกิกับทรายแมวที่เอาไว้เติมให้สองแสบเหลืออยู่สักค่อนถุงได้ ก็เลยเอามาให้เด็ก ๆ หัดใช้..โว๊ะ ฉลาดเป็นกรดเลย ทุกตัวใช้เป็นเหมือนเกิดมาเพื่อสิ่งนี้กันเลยทีเดียว

ตอนหน้าของบล็อก เรามาแนะนำเด็ก ๆ เรียงตัวกันนะคะ :)











วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ฝูงก๊อบลินกับสภาวะ "หวัดแดก" (วันที่ 3)


ช่วงนี้อิ่เจ๊มัววุ่นวายอยู่กับการดูแลงาน,สองแสบประจำตึก และฝูงก๊อบลินหลงแม่อยู่ค่ะ (งานการแม่มมม..ไม่ต้องทำกันละ) แต่ขอแอบมาบันทึกเอาไว้หน่อย เผื่อจะเป็นทะเบียนประวัติสำหรับฝูงก๊อบลิน ที่บัดนี้แปรสภาพมาเป็นสินค้าในเครืออิ่เจ๊ชั่วคราวไปเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวเล่าย้อนในวันที่ 3 ที่เริ่มเข้าไปดูแลบรรดาเด็กน้อยกันก่อนนะคะ

หลายๆ คนที่ไม่ได้อ่านไดอารี่ของสองแสบมาตั้งแต่ต้น อาจจะอยากรู้ความเป็นมาของฝูงก๊อบลินกลุ่มนี้สักเล็กน้อยกันก่อนฮ่ะ เนื่องจากอิ่เจ๊เองทำงานเกี่ยวกับการให้บริการห้องพักรายเดือน-รายวัน สำหรับน้องๆ นิสิต,คณาจารย์ และแขกที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด อยู่แถว มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก (เนื้อที่โฆษณา กรั่ก ๆ ๆ) ดังนั้นจึงจำเป็นอยู่เองที่จะต้องไปดูงานทุกวัน แต่ชีวิตที่ราบรื่น (ตรงไหน?) ของอิ่เจ๊ ก็ต้องมาสั่นคลอนเพราะมีแม่แมวจรมาคลอดลูกไว้ในห้องเก็บของของตึก 5 จากนั้นช่วงเวลาหนึ่งเดือนต่อมา แม่แมวจู่ ๆ ก็เปิดตรูดหนีไป ไม่มาให้นมลูกซะงั้น กว่าอิชั้นจะรู้ทันว่ามีลูกแมวตกค้างอยู่บนตึก ก็เกือบจะได้ซากแมวแทนลูกแมวตัวเป็นๆ ซะแระ


หลังจากแน่ใจว่าแม่แมวไม่กลับมาเลี้ยงลูกแน่ ๆ ภาระในการดูแลเด็ก ๆ ก็เลยกลายมาเป็นของอิชั้นกับลูกน้องที่ตึกฮ่ะ วันที่ 3 หลังจากรอจนแน่ใจแล้วว่าเด็กฝูงนี้ต้องเป็นกำพร้า อิ่เจ๊ก็เลยต้องจัดการดูแลไปตามขั้นตอน ยกตัวอย่างอันดับแรก...เนื่องจากอิ่ลูกแมวแต่ละตัว มันหยองกรอดซะเหลือเกิน (จริงๆ ควรจะเรียกว่าเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกด้วยซ้ำ คาดว่าคงขาดนมมาเป็นสิบวัน) แถมยังมีอาการตาแฉะ ตาปิด ขี้ตาเกรอะกรัง บางตัวเริ่มขึ้นขั้นมีแผลในปาก,ในจมูก และเริ่มซึมบ้างแล้ว ดังนั้นอิชั้นก็เลยให้ลูกน้องหอบทุกตัวใส่กล่องแล้วก็พาข้ามถนนไปหาหมอที่คลินิกสัตวแพทย์ใกล้ๆ ตึก


ปรากฎว่าผลการตรวจเบื้องต้น..อิ่เด็กพวกนี้มันเป็นหวัดกันยกฝูงเลยฮ่ะคุณผู้โชม และไอ้โรคหวัดแมวนี่ก็ไม่ใช่เล่นๆ นะฮะ มันเป็นโรคที่ถึงตายได้ หากไม่ได้รับการดูแลที่ดีพอ แถมติดกันง่ายอีกต่างหาก ดังนั้นหมอตูน ซึ่งเป็นหมอประจำตัวของสองแสบ (กะทิ,โกกิ) ก็เลยจัดการการดูแลรักษาเต็มที่...เริ่มตั้งแต่หยอดยาฆ่าแมลง เฮ่ย...ไม่ช้ายยย..หยอดยาถ่ายพยาธิ,ยาแก้อักเสบ,เช็ดไรในหู,ตัดเล็บ สุดท้าย อิ่เจ๊ทนไม่ไหว ก็เลยบอกให้หมอตูน อาบน้ำให้ทุกตัวเลย....กระเป๋าแบนแฟนทิ้งกันก็คราวนี้ (ขุ่นพระ...อิ่เจ๊มีแฟน ??)


"เด็กพวกนี้เดือนครึ่งแล้วนะคะ ฟันขึ้นแล้ว กินอาหารได้เองละแต่อาจมีบางตัวที่ยังดูจิ๋วๆ อยู่" หมอตูนง้างปากเด็กๆ ดู ก่อนจะจ่ายยากินกับยาป้ายตาแก้ตาแฉะมาให้เป็นออเดิร์ฟเล่นๆ


สรุปว่าอีก 3-4 วันต่อจากนี้ เด็กๆ ต้องกินยา+ป้ายยากันทุกตัวฮ่ะ ส่วนอิ่เจ๊ก็มีหน้าที่เป็นหน่วยสนับสนุนความมั่นคงด้านอาหาร มีลูกน้องที่ตึกเป็นหน่วยรักษาสุขภาพคอยดูแลเด็ก ๆ เพื่อให้พ้นจากอาการหวัดแดกกันโดยเร็ว จะได้คิดอ่านกันต่อไปว่าจะเอายังไงกะมันดี...แต่ที่คิด ๆ ไว้ก็คือคงต้องพามาหาบ้านใหม่ให้ทั้งหมดนั่นล่ะ เพราะอิ่เจ๊ก็คงจะเลี้ยงไว้เองทั้งหมดไม่ไหว ไดอารี่ตอนหน้าเรามาดูวิวัฒนาการที่เป็นไปของเด็กพวกนี้กันนะคะ









วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

จับฝูงก๊อบลินมาตรวจสภาพกันเถอะ (วันที่ 2)


คงต้องบอกว่าอิ่เจ๊ไม่ได้เลี้ยงแมวเด็ก ๆ ตัวเล็กตัวน้อย ขนาดเพิ่งตั้งไข่ได้มานานกว่า 20 ปีแล้วก็ว่าได้มั๊งคะ (อย่าพยายามเดาอายุอิ่เจ๊ เพราะคุณจะไม่ได้รับรางวัลรถยนต์เปอเช่เหมือนที่คุณตันอิชิแจก >.<)

ดังนั้นพอเหล่าบรรดา "ก๊อบลิน" หรือไอ้ลูกแมวประหลาดครอกนี้ถูกแม่แมวมันหย่อนปุ๊ลงมาในตึก อิ่เจ๊ก็เลยปริวิตกมากมายฮ่ะ เนื่องจากรู้ดีว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะดูแลแมวเด็กอายุน้อย ๆ ที่หย็องกรอดขนาดนี้ถึง 5 ตัวในคราวเดียวกันอ่ะนะ

แต่ทำไงได้ล่ะ (กรูงง)..ฟ้าข้างบนเค้าคงดลบันดาลให้เจ้าตัวเล็กๆ เหล่านี้เกิดมาในดงงานอิชั้นอ่ะ ยังไงก็คงต้องเอาให้มันรอดชีวิตไว้ก่อน ดังนั้นเมื่อแน่ใจแล้วว่าแม่มันไม่กลับมาเลี้ยงลูกแน่ ๆ ปฏิบัติการกู้ชีวิตลูกแมว(โดยไม่มีดอกเบี้ย) ก็เริ่มต้นขึ้น

อันดับแรก อิชั้นหอบกรงของแสบเล็กที่เคยซื้อมาไว้ใช้กักกันโรคตอนรับตัวโกกิมาใหม่ๆ มาเพื่อจับแก๊งค์ก๊อบลินให้ได้ก่อนฮ่ะ หะแรกก็กลัวจะจับยาก เนื่องจากลูกน้องบอกว่าไม่กล้าจับ พอจะจับ เด็กก๊อบลินก็วิ่งปรู๊ดไปแอบอยู่ตามซอกหลืบต่างๆ แถมขู่แฟร่ๆ จะกินตับไอ้คนจับดั้ว

อย่ากระนั้นเลย..แวะซื้อถุงมือไว้จับเอาละกันนิ

แวะซื้อถุงมือแล้ว ก็ไม่ลิืมแวะซื้อนมแพะสำหรับแมวเด็กและอาหารเม็ดมาด้วย

นึกว่าจะจับยาก....สุดท้ายแล้วพอเอาเข้าจริง ๆ ก็ไม่ยากอย่างที่คิดฮ่ะ ถุงเมิงถุงมือไม่ต้องใช้กันล่ะ...โชคดีที่ห้องเก็บของไม่ได้มีซอกหลืบเล็ก ๆ ให้แอบมากเท่าไหร่

จับมาแล้วก็ใส่กล่องไว้ก่อนอ่ะนะคะ..แบบว่าทดลองเอาใส่กรงสีจมปูเก่าของสองแสบแล้ว มันใช้ไม่ได้อ่ะ แต่ละตัวผอมตัวเล้กกกมาก เล็ก..ซะจนมุดออกจากซี่ลูกกรงได้ คิดดูเหอะ T^T (ผอมจนพรีเซนเตอร์มิสเตอร์สลิมอาย)


ขอบอกว่าสภาพทุเรศเวทนามากฮ่ะ..ผอมหย็องกรอดอะไรเช่นนี้ก็ไม่รู้ เนื้อตัวแทบจะเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ตาโปนหูหลิมใหญ่ยังกะใบพาย แถมขี้ตาเขลอะ ลืมตาไม่ขึ้น อิชั้นว่าสภาพมันดูแย่กว่าแมววัดเป็นไหนๆ  (นี่แม่แกทิ้งไปกี่วันแล้วยะ ถึงได้สภาพเหมือนลูกแมวตากแห้งขนาดนี้??!!)

พอหอบกล่องลงมาไว้ในออฟฟิศได้ อันดับแรก เช็ดขี้หูขี้ตากันก่อนค่ะ บางตัวตาเปิดก็จริง แต่แฉะมากกกก...บางตัวขี้ตากรังซะจนลืมตาไม่ขึ้น แถมมีเด็ดกว่านั้นที่บางตัวมีแผลบนปากบนจมูกด้วย แผลนี้เจ้าได้แต่ใดมา หือ... ??


เจ้าตัวนี้ตาโปนแก้มตอบ แขนขาเก้งก้าง หูแหลมกางยังกะตัว "ก้อบลิน"


ตัวนี้ก็ไม่ผิดกันสักเท่าไหร่ค่ะ..มันคงตกใจน่าดูเหมือนกันเนอะ ที่จู่ ๆ โดนมนุษย์จับตัวมาแบบนี้..ใจเย็น อิ่หนู เอร็งโชคดีละที่มาเจอเจ๊...


 ให้แม่บ้านกับน้องเสมียนมาช่วยกันเช็ดหูเช็ดตาเด็ก ๆ ตรวจสภาพเบื้องต้นแล้ว แย่กว่าที่คิด..


งานนี้อิชั้นใช้น้ำเกลือที่สำหรับล้างแผลชุบกับสำลีเช็ดเอาค่ะ ปาดๆ ป้ายๆ จนกระทั่งทุกตัวพอลืมตาได้ก่อน


ตัวไหนเช็ดตาจนมองเห็นแล้ว ก็ให้กินนมแก้หิว..ด้วยความที่เป็นครั้งแรกที่ต้องกินนมจากถ้วย บางตัวเอาหน้าจุ่มลงไปถึงกับสำลักเข้าจมูกเข้าปากก็มี >.<


 ลองเอาอาหารเม็ดแช่นมให้กิน..เฮ้ย..กินได้ด้วยเว้ย คงจะหิวกันน่าดูสินะ


ให้กินนมกินอาหารกันสักพัก ก็จับเข้ากรงค่ะ วันนี้มีเวลาน้อย เลยให้อาหารพอประทังหิวไว้ก่อน สรุปว่าวันนี้คงจะต้องจับใส่กรงไว้ก่อนแหละนะ


ไอ้ตัวนี้สภาพแย่กว่าใครเพื่อน..ตัวเล็กสุด แข้งขายังกะไม้ตะเกียบผ่า 7 ซีก พุงแฟ่บ ซี่โครงขึ้น แถมดู "โง่ๆ" ด้วยนะ เพราะพี่น้องเค้าลอดลูกกรงกันได้หมด มันยังเอาหัวจุ่ม ๆ เดินงงงวยติดอยู่ในกรงอยู่นั่นแหละ


หน้าตามีคำถาม..."แม่หนูอยู่ไหน เจ๊เห็นแม่หนูบ้างมั้ย ?"


เอาฟิวเจอร์บอร์ดรองพื้นกรงไว้ค่ะ ลืมเอากระบะทรายเก่าของสองแสบมาให้เด็ก ๆ อึฉี่ เห็นตัวเล็กๆ จิ๋วๆ แบบนี้แต่งานดูแลไม่เล็กนะ


กลัวจะหิว เลยเอาอาหารใส่กรงไว้ให้ด้วย แอบเห็นสีบนหัวไอ้ตัวเล็ก นี่คงเป็นผลงานของช่างประจำตึกที่เข้ารีโนเวทห้องเก็บของเมื่อหลายวันก่อน


สรุปว่าวันที่สอง เอาเรื่องประทังความหิวกันไปก่อนค่ะ เวลาที่จะดูแลเด็ก ๆ มีน้อยเหลือเกิน เพราะช่วงนี้ออฟฟิศงานเยอะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ คืนนี้อย่างน้อยเด็ก ๆ ก็ไม่หิวกันละ บล็อกในตอนหน้าเรามาดูความคืบหน้าของก้อปลินฝูงนี้กันนะคะ