วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

อุ่นใจแล้วเมื่อมีเธอกับฉัน


ช่วงนี้แอดมินแทบไม่ได้แตะบล็อกหลักเลยค่ะ 555 มัววุ่นวายอยู่กับไดอารี่ไอ้เจ้าแกงค์ซาละเปาขาวอวบนี่ล่ะ ทำไงได้..ก็เรื่องม้นเยอะ แถมตอนนี้ภาพของไอ้เจ้าสองแสบก็มีบานเต็มมือถือเลย ต้องรีบระบายลงท่อซะหน่อย ไม่งั้นเครื่องมันแลดูจะอืด ๆ >_<"

คนรักแมวหลาย ๆ คนมักจะเคยเป็นโรคแมวงอกฮ่ะ..ก่อนหน้านั้นอิชั้นเคยตั้งใจเอาไว้ว่า เลี้ยงกะทิแค่ตัวเดียวพอละ หลายตัวก็กลัวจะเป็นภาระทางใจให้คอยห่วงกังวลซะเปล่า ๆ แต่แล้วโชคชะตาก็ทำให้ต้องพาเด็กโกกิมาอนุบาลเพิ่มอีกตัวนึง เนื่องจากพี่สาวซึ่งเป็นเจ้าของเก่ายัยกะทิดันเอ่ยปากถามว่า..อยากได้ "หลานยัยกะทิ" มาเลี้ยงเพิ่มอีกสักตัวมะ

โกกิตอนมาถึงช่วง 2-3 วันแรก
ยอมรับตามตรงว่าตอนแรกก็ลังเลฮ่ะ ถึงขนาดตัดสินใจว่าไม่เอาดีกว่า แค่ตัวเดียวก็ไม่รู้จะจัดสรรปันส่วนเวลาในชีวิตอย่างไรละ เพราะก่อนหน้านั้นก็ยุ่งอยู่กับมันนี่ล่ะ ไปถึงออฟฟิศแทนที่จะได้นั่งเซ็นงานสวย ๆ กลับต้องไปนั่งตักอึในกระบะทราย กวาดกรง เปลี่ยนน้ำ ให้อาหาร เอาเบาะมาเคาะไล่ขนแมว แถมมีหน้าที่ให้ความรัก กอด ๆ ฟัด ๆ จุ้บ ๆ แมวให้รู้สึกว่าไม่ถูกทอดทิ้งอีก (คืออันหลังนี่รู้สึกจะเป็นความสุขของอิ่เจ๊มากกว่าของแมวนะ 555)

ช่วงอาทิตย์แรกที่มาอยู่ด้วยกัน ฉายแวว..อิ่เด็กแฉบ..
จำได้ว่าตอนไปรับตัวโกกิมา หลานชายขี่มอเตอร์ไซค์พาไปค่ะ เจ้าของแม่ของยัยโกกิพอรู้ว่ามาเอาลูกแมวก็รีบกระวีกระวาดชี้ให้เลยว่ากรงอยู่ตรงไหน (เข้าใจเนอะ ว่ามีลูกแมวเยอะ ๆ ในบ้านมันก็ภาระเหมือนกัน) พอบอกว่าจะมาเอาแค่ "ตัวเดียว" เจ้าของแม่โกกิก็บอก "เอาไปสองตัวเลย"แหม..ใจดีจัง !!... O_o อิชั้นก็ได้แต่แอบทำหน้าตาตื่น เพราะตั้งใจจะมารับแค่ตัวเดียวเพื่อเอาไปให้พี่สะใภ้ที่อยากได้เท่านั้น

ไอ้ครั้้นจะเอาไม่เอาก็สงสานอ่ะ ทุกตัวอยู่ในกรงขึ้นสนิมที่ตั้งอยู่บนพื้นดินชื้นแฉะ มีจานขยำข้าวกับเศษปลาอยู่ในจานเลอะ ๆ ใบนึง..ที่สุดแล้ว ก็เลยต้องจับแมวขาวสองตัวออกมาจากกรง โดยเป็นตัวผู้ตัวนึง เป็นตัวเมียตัวนึง ตอนนั้นก็ไม่รู้หรอกนะ ว่าจะได้เลี้ยงตัวไหน แต่ก็เอามาก่อนแล้วกัน ให้พี่สะใภ้ได้เลือกก่อน

เอามาแล้วก็ใช่ว่าจะเอาเข้าตึกได้ทันทีค่ะ แต่ต้องเอาไปกักกันโรค ทำวัคซีน ฝากหมอดูแลที่คลีนิครักษาสัตว์อยู่ถึงหนึ่งอาทิตย์เต็ม ๆ พอกลับมาแล้วพี่สะใภ้ก็มารับแมวเด็กตัวผู้ไป เหลืออิ่โกกิ แมวเด็กตัวเมียที่ทั้งซนทั้งเอ๋อเอาไว้ให้อิช้ั้นดูแล...จริง ๆ มันไม่ควรจะเอ๋อนะ ถ้าไม่เป็นเพราะวันแรกที่เอามาปล่อยไว้ในออฟฟิศ มันดันวิ่งชนกระจกซะจนนั่งงงตาลอยคอโงกเงกซะก่อน (เห็นแล้วทั้งขำท้ั้งสงสาน) กักบริเวณได้แค่ไม่กี่วัน โกกิก็ดันเป็นหวัดรับหน้าฝน ต้องขังแยกป้อนยาไม่ให้ปะปนกับกะทิต่ออีกสองอาทิตย์ ก่อนจะค่อย ๆ พามาเล่นรวมกันในออฟฟิศจนคุ้นเคยกันได้ในที่สุด

โกกิกับโกโก้ ตอนฝากอยู่ที่ร้านหมอ
ตอนนี้กะทิกับโกกิเข้ากันได้ค่อนข้างดีค่ะ..ภาพของกะทิที่นั่งเหงาอยู่ในกรงตัวเดียวที่เคยเห็นจนชินตาหายไปแล้ว เหลือแต่กะทิที่นั่งจ้องคอยหาเรื่องเล่นกันกับโกกิ บางทีก็เลียขนแต่งตัวให้น้องอย่างเพลิดเพลินซะงั้น

เรามาดูภาพกะทิกับโกกิใช้ชีวิตชิล ๆ ยามบ่ายในกรงใหญ่กันนะคะ :)


เฮ่ย...ลืมสังเกต...เผลอแป๊บเดียว โกกิตัวใหญ่ขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย >0<


"พี่ทิเล่นไรอ่ะ..."


 กิอยากกิงนมแม่


แต่ได้ข่าวว่า อันนี้มันนิ้วอิ่เจ๊นะ (= =")


 จุ้บ ๆ กัด ๆ ดูด ๆ คิดถึงแม่ป่าวกิ


ตัวบานจนเต็มตะกร้าเล็กใบเดิมของพี่ทิแระ


"นั่นมันนกใช่ป่ะ..พี่ทิ..จิ๊บ ๆ จิ๊บ ๆ มานี่ม่ะ จิ๊บ ๆ จิ๊บ ๆ"


"พี่ทิ..บอกอิ่เจ๊ให้ปล่อยเก๊าออกไปจับนกที..."


"เจ๊.......เก๊าอยากเล่นกับพี่นก...." (เอร็งง่วงแล้ว ตาปรอยขนาดเน้ นอนเหอะ)


"ปุ้งนี้ได้มะ..." (เออ..นอนก่อนเหอะ << เวอชั่นหลอกเด็ก) เห็นทำท่าแบบนี้แล้ว มันน่าเปิดกรงไปจับมาฟัดพุงอีกรอบเนอะ อิอิ

แล้วกลับมาพบกับกะทิและโกกิได้ใหม่ในตอนหน้านะคะ



เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai


วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ออฟฟิศจะแตก


หลังจากที่ตัดสินใจเอายัยโกกิแมวเด็กใหม่เข้ามาอยู่เป็นเนื้องอกในชีวิตของยัยกะทิ ก็รู้สึกได้ว่าอิ่หมู่นี้ กะทิเริ่มเปี๋ยนไป๋ขึ้นเรื่อย ๆ ฮ่ะ

แต่ก่อนนั้น ด้วยความที่เป็นแมวหัวเดียวกระเทียมลีบ กะทิจะค่อนข้างขี้อ้อนเอามั่ก ๆ คือถ้าอิชั้นเอามันเข้ามาในออฟฟิศและให้กินอาหารจนอิ่มแล้ว สักพัก เธอก็จะมาวนเวียนคอยนั่งคอยสีคอยสะกิดสะเกาให้รักเธออยู่นั่นล่ะ แถมอิ่ตอนพากลับเข้ากรงก่อนอิชั้นกลับบ้าน ก็มักจะมีแมวเหงามานั่งพองลมยังกะอึ่งอ่างอยู่แถว ๆ มุมกรง คอยส่งสายตามองตามรถอิชั้นนิ่ง ๆ ไปจนกว่ารถจะลับตา เป็นที่น่าเวทนากับอิ่เจ๊มันยิ่งนัก


แต่เดี๋ยวนี้ กะทิเปลี่ยนไปฮ่ะ ตั้งแต่มีอิ่แมวเด็กตัวขาวหางยาวตาเหลืองเข้ามาอยู่ด้วยในออฟฟิศ คุณพี่กะทิเค้าก็ไม่ค่อยจะสนใจอิ่เจ๊เลย เดาเอาว่าปัจจุบันอิ่เจ๊มันดำรงตำแหน่งเป็นเครื่องให้อาหารแมวเท่านั้น T^T เพราะพอฉีกอาหารซองให้กินอิ่มปุ๊บ สองแสบก็เอาแต่เล่นกัน ปล้ำกัน นัวเนียกัน แม้ว่าอิชั้นจะจับแยก แค่สองนาทีเท่านั้นมันก็โดดผลุงไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอีก (สนใจเจ๊บ้างงงง.. T_T)


นี่มันเกิดอัลไลขึ้นกันเนี่ย !!??

เท่านั้นยังไม่พอฮ่ะ กะทิยังทำตัวเป็นพี่ที่ดีเกินคาด อิชั้นฉีกอาหารซองให้ตัวละซอง ของโกกิใส่ถาดหลุมให้กิน ส่วนของกะทิใส่ถ้วยใบโปรดให้ กะทิกลับไม่กินซะงั้น แต่กลับรอให้โกกิกินอาหารของตัวเองจนเหลือเสียก่อน ค่อยไปตามเก็บกินอาหารที่เหลือ ร้อนถึงอิ่เจ๊ ต้องเปลี่ยนเป็นให้อาหารในถาดหลุมแบบคู่แฝด


กินอิ่มก็มานั่งแต่งตัว เลียขนให้สลวยสวยงามกันสักพัก แป๊บเดียวเท่านั้นฮ่ะ..ก็ได้เวลาชวนกันเล่นอีกแระ

อ่ะ..มาดูการประมวลภาพ สองแสบถล่มออฟฟิศกันนะคะ :)


เฮ้..แกทำไรอ่ะ ยัยลิงกิ


 เก๊าอิ่มแย้วอ่ะพี่ทิ....มาเล่นกันเถอะ ๆ


 เน่ ๆ..พี่ทิทำแบบเค้าได้ป่าว..ตอนเน้เค้าเป็น"สไปเดอร์แมว"นะ..แฟร่บ ๆ ๆ..(แฟร่บป้อเธอสิ....>0</ อ๋อย..โต๊ะกลางอันแสนแพงของช้าน T^T)


น่า..นะ..มาเล่นกันเถอะ ๆ (พี่ทิ : จะดีเหรอ อิ่เจ๊มองอยู่นะ ??)


งั้นมาเล่นมวยปล้ำกันก็ได้


เอาจริงนะ..ทิ ถีบ ๆ ๆ กิ กอด ๆ ๆ..เฮ้ย..@3%%#@@&^


หนุกจัง..อีกรอบมะพี่ทิ (อิ่เจ๊..พอเหอะ พวกเอร็งทำออฟฟิศจะกลายเป็นห้องอนุบาล ก.ไก่ แระ มองไปทางไหนก็มีแต่ของเล่นเอร็งทั้งคู่ แล้วไหนล่ะ สมุดบัญชีของชั้น)


สุดท้ายขอปิดตอนกันด้วยภาพสองแสบนั่งฟังอิ่เจ๊อบรมชุดใหญ่นะคะ อิอิ..

แล้วกลับมาพบกับกะทิและโกกิได้ใหม่ในครั้งหน้าค่ะ




เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai



วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ก้าวใหม่ของยัยโกกิ


เฮือก..ทิ้งบล็อกไปทำภาระกิจกู้ชาติซะหลายวัน เล่นเอาพอจะกลับมาบันทึกไดอารี่สองสองแสบอีกครั้ง ก็แทบจะประมวลเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่หวาดไม่ไหว

เล่าแบบย่นย่อสุด ๆ ก็ละกันเนอะ 555 จ้ำตามให้ทันกันสักจ๋อยนึงนะคะ อ่ะ..มาเริ่มกันเลยละกันค่ะ

หลังจากอิชั้นรับตัวแมวเด็กสองตัวมาไว้ที่ออฟฟิศ พี่สะใภ้ก็มารับตัวน้องแมวตัวนึงไปอุปการะตามที่อยากได้ฮ่ะ ส่วนอิชั้นน่ะเร๊อะ ก็รับยัยตัวเล็กหน้าแหลม ๆ ตาโหล ๆ รูจมูกดำ ๆ ที่เหลือเอาไว้เป็นเพื่อนยัยกะทิ (ก็ไอ้ตัวที่เค้าไม่เอานั่นล่ะ 5555+)

แม่ตัวเล็กตัวนั้้นได้ชื่อว่า "โกกิ" ฮ่ะ เนื่องจากตัวคุณเธอมีสีขาวล้วนเหมือนยัยกะทิ (แน่ล่ะสิ ก็เป็นหลานยัยกะทิแท้ ๆ นี่ ก็ต้องได้เชื้อยายทิมามั่งแหละฟระ) หางยาว หัวเล็ก ขนหย็องแหย็ง ลักษณะนิสัยตอนมาใหม่ ๆ ก็ซนแสบเกินพิกัด ซึ่งแน่นอนว่า การจะเอาแมวเด็กเข้าบ้านมาใหม่นั้น ก็ต้องผ่านการพิจารณาและยอมรับจากแมวเจ้าถิ่นก่อน ดังนั้นอิชั้นก็เลยจับยัยโกกิแยกกับยัยกะทิไว้ในกรงเล็ก

กักบริเวณให้พอเห็นพลางขยันเอามาเล่นในออฟฟิศให้พอคุ้น ๆ กันได้ไม่ทันไรฮ่ะ เรียกว่ายังไม่ทันจะคุ้นกันดีด้วยซ้ำ (เพราะยัยกะทิแฟร่ ๆ ใส่โกกิทุกครั้งที่โกกิเข้าใกล้) ยัยโกกิก็ดั๊นนน..เป็นไข้หวัดแมวซะก่อน (อะไรของแกวะกิ) อาการก็ไม่ได้หนักหนาอะไรมากฮ่ะ เพียงแต่มีอาการจามฟุดฟิด แล้วก็ไอค่อกแค่ก ๆ ครึ่ด ๆ บ้างเป็นบางครั้ง

หลังจากพาโกกิไปหาหมอ ฉีดยามาสองเข็ม ร่วมกับต้องกินยายาว..ให้ครบโดส หมอก็สั่งว่าให้อิชั้นแยกกะทิกับโกกิจากกันไว้ก่อนฮ่ะ เนื่องจากไข้หวัดแมวนี้เป็นโรคที่ติดต่อกันง่ายมาก และหากติดแล้วมีอาการแทรกซ้อน ก็อาจทำให้แมวถึงตายได้ เรียกว่า..งานนี้ยัยกิต้องโดนขังยาวเลี้ยงอยู่ในกรงเล็กต่อไปอีกร่วมสองอาทิตย์เลยทีเดียว

พอครบกำหนดเวลา ทีนี้อิชั้นก็เลยตัดสินใจพาโกกิเข้ามาให้พี่กะทิดูตัวทันทีฮ่ะ..ไม่รู้เป็นเพราะช่วงสองอาทิตย์ที่แยกกรงกัน แต่ทั้งคู่ก็ยังมองเห็นกันลิบ ๆ ในระยะ 6 เมตรรึเปล่า ที่พออิชั้นวางโกกิบนเคาเตอร์ออฟฟิศ กะทิก็โดดผลุงเข้ามาหาน้องทันที..


เปล่าฮ่ะ..ทิไม่ได้ใจดีขนาดยินดีต้อนรับน้องขนาดนั้น...เพราะมันตามด้วยอาการ แฟร่....แฟร่ด ๆ แบบไม่พอใจตามเคย โชคดีที่โกกิเป็นแมวเด็ก จึงทำได้แค่ออกอาการหงอ งอตัวกลม แล้วก็เที่ยวแอบตรงนู้นตรงนี้ตลอดและเพราะกิยอมทิเช่นนี้กระมัง จึงช่วยลดการประจันหน้า ข่วนจิกตบตีกันได้ระดับหนึ่ง


อิชั้นพยายามเอาโกกิเข้ามาเล่นในออฟฟิศคู่กับกะทิทุกวันฮ่ะ คือถึงกะทิจะไม่ยอมเล่นกับโกกิ แต่ช่วงวันหลัง ๆ นี่ก็มีรายการนั่งมองโกกิเล่นแบบไม่ได้ออกอาการแฟร่ ๆ เหมือนทุกครั้ง แล้วก็มีบางคราวเหมือนกัน ที่กะทิทำท่าอยากโดดลงไปเล่นกับโกกิ


กระทั่งวันดีเดย์มาถึง..สามวันให้หลังหลังจากที่พาโกกิเข้าออฟฟิศ อิชั้นก็จับโกกิเข้ากรงกะทิมันซะเลย แน่นอนว่า กะทิไม่พอใจอย่างแรว๊งงงง..เนื่องจากกรงใหญ่นี้ถือเป็นอาณาเขตของเค้า แต่ทำไงได้..ช่วยเจ๊หน่อยเหอะทิ จะให้เจ๊ซื้อกรงใหม่มาให้ยัยกิอีก 6-7 พัน มันก็ไม่ไหวนะ >.<


แน่นอนฮ่ะ..การเข้ามาอยู่รวมกันในกรงถึงสองตัว ก็ทำเอาแมวทั้งคู่เครียดและคุมเชิงกันและกันแบบแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน ถามว่าอิเจ๊เป็นห่วงมั้ย ก็ห่วงทั้งคู่แหละฮ่ะ แต่เนื่องจากไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ไอ้เจ้าสองตัวนี้ก็ต้องอยู่ด้วยกัน นอนด้วยกัน กินด้วยกัน เล่นด้วยกันอยู่ดี เพราะฉะนั้น..ก็ต้องทำใจแข็งเพื่อให้มันทำความรู้จักกันไปเองเข้าไว้


ในตอนหน้าของบล็อกยัยกะทิ เรามาดูความคืบหน้าของสองแสบกันนะคะ ว่าจะเข้ากันได้บ้างมั้ย แล้วกลับมาพบกับกะทิและโกกิได้ใหม่ในครั้งหน้านะคะ





เรื่องและภาพประกอบจาก Pacharawalai