วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2556

การติดสัดในแมวเพศเมีย


สัตว์เลี้ยงแสนรักของคนเราที่เป็นที่นิยมเลี้ยงกันอย่างกว้างขวาง ก็เห็นจะมีอยู่สองประเภทใหญ่ ๆ ก็คือ เจ้าน้องหมากับน้องแมวนี่แหละฮ่ะ ซึ่งสัตว์ทั้งสองประเภทนี้ เมื่อโตและย่างเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์แล้ว ก็จะมีระยะเวลาที่เราเรียกกันว่า อาการ "ติดสัด" ซึ่งเป็นอาการที่บ่งบอกว่า หมาแมวของเราพร้อมผสมพันธุ์ พร้อมให้กำเนิดตูบน้อยมิ้วน้อย ซึ่งหากใครไม่อยากได้สมาชิกภายในครอบครัวเพิ่ม ก็คงต้องคิดอ่านหาวิธีคุมกำเนิดกันไป ไม่ว่าจะเป็นการฉีดยาคุมกำเนิดให้ หรือพาไปทำหมันถาวร ซึ่งก่อนจะไปถึงขั้นนั้น วันนี้อิชั้นจะนำข้อมูลของการติดสัดในน้องแมวมาฝากกันสักเล็กน้อยนะคะ


เมื่อหลายวันก่อนนั้น อิชั้นได้เล่าไปแล้ว ถึงเรื่องที่ยัยโกกิเริ่มโตเป็นสาว และมีอาการติดสัดครั้งแรกอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นร้องหง่าวหาคู่เกือบตลอดเวลา กินเก่งขึ้น อ้อนเก่งขึ้น ชอบเอาตัวไปถูไถพื้นหรือแม้แต่อ้อนอิชั้น พอเกาสะโพกให้ก็ยกตรูดเบี่ยงหางพร้อมเหมือนแมวที่ต้องการการผสมพันธุ์ทั่วไป ซึ่งวันนี้เราจะมาดูระยะเวลาของการติดสัดแต่ละรอบของเจ้าเหมียวของเรากันนะคะ โดยเราจะเริ่มจากการติดสัดในแมวตัวเมียกันก่อนเลย อ่ะ..เรามาดูวงจรการเป็นสัดของแมวตัวเมียกันค่ะ

วงจรการเป็นสัดของแมวตัวเมียในแต่ละรอบนั้น แบ่งคร่าว ๆ ได้ดังนี้

1. ระยะ Proestrous ระยะนี้จะกินเวลาประมาณ 1-2 วันฮ่ะ ซึ่งระยะนี้แมวจะมีอาการของการติดสัดเบื้องต้น คือมีอาการร้องหง่าวเสียงดัง ถูไถตัวตามพื้นหรือที่ต่าง ๆ เมื่อเวลาเราเกาก้นก็จะยกสะัโพกให้ ซึ่งระยะนี้แมวตัวเมียจะยังไม่ให้แมวตัวผู้ผสมพันธุ์นะคะ

2. Estrous ระยะการเป็นสัดอย่างแท้จริง ซึ่งจะกินเวลาประมาณ 6-7 วันค่ะ ระยะนี้แมวตัวเมียก็จะยอมให้ผสมพันธุ์แล้ว ซึ่งหากได้รับการผสมพันธุ์จากตัวผู้ โอกา่สที่แมวตัวเมียจะท้องก็มีสูงมากทีเดียวค่ะ

3. Diestrous ระยะนี้เราเรียกกันว่า ระยะไข่ตกฮ่ะ ซึ่งจริง ๆ ระยะนี้หากแมวได้รับการผสมพันธุ์แล้วท้องก็จะกินเวลาประมาณ 60 วัน แต่หากไม่ได้ืืท้อง ก็จะกินเวลาเพียง 35-40 วัน

4. Interestrous ช่วงนี้เราเรียกว่าเป็นระยะไข่ไม่ตกฮ่ะ ซึ่งจะกินเวลาประมาณ 3-16 วัน จากนั้นแมวก็จะเข้าสู่สภาวะการติดสัดอีกรอบ

5. Anestrous เมื่อเข้าสู่ระยะนี้ เราจะเรีียกว่า ระยะพักตัวของระบบสืบพันธุ์ฮ่ะ โดยจะกินเวลาประมาณ 5-10 วันในพื้นที่ที่มีภูมิอากาศเหมาะสม (อากาศอบอุ่น,แสงเพียงพอ) แต่หากเป็นเมืองนอกที่มีภุมิอากาศแบบหนาวเย็น ไม่คอ่ยมีแสงแดด ก็อาจกินเวลาหลายเดือนก็ได้

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลายคนคงเกิดอาการ "ยืนงงในดงแมว" 555+ เอาเป็นว่าสรุปให้ฟังสั้น ๆ พอเข้าใจนิดนึงก็ละกันเนอะ นั่นก็คือ หากแมวตัวเมียของเราเกิดอาการหง่าวแล้วไม่ได้ผสมพันธุ์ อาการหง่าวนั้นก็สามารถกลับมาเป็นได้อีก สั้นที่สุดคือ 3 วัน ยาวที่สุดก็คือหลายเดือน

หากแมวตัวเมียของเราหง่าวแล้วโดนผสม แล้วเกิดอาการตั้งท้อง คลอดลูก แมวตัวเมียก็สามารถกลับมาหง่าวได้อีกภายใน 3 วัน หรือหลายเดือน (ฮ่วย)

หรือกรณีแมวตัวเมียของเราหง่าวแล้วโดนผสมแต่ไม่ท้อง ก็สามารถกลับมาติดสัดได้อีกภายใน 1-2 เดือน หรืออาจจะหลายเดือน

ดังนั้นหากเราไม่ต้องการลูกแมวตัวเล็ก ๆ เอาไว้เลี้ยงดูฟูมฟัก หรือไม่ต้องการเพิ่มจำนวนสมาชิกเหมียว ๆ ภายในบ้านก็ควรพาน้องแมวไปทำหมันซะนะคะ ซึ่งข้อนี้อิชั้นซาบซึ้งดีฮ่ะ.. T^T แล้วก็กำลังรอให้ยัยโกกิหายหง่าวซะก่อนถึงจะพาไป

ก็หวังว่าข้อมูลที่นำมาฝากกันในวันนี้ จะเป็นประโยชน์สำหรับคนรักแมวบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ




เรียบเรีัยงข้อมูลจาก rakmaw.com