วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เรื่องหลุดๆ


ไม่รู้มีใครเป็นอย่างอิ่เจ๊บ้างรึเปล่า ที่ตั้งแต่มีแมวมาเป็นของตัวเอง ก็มักจะได้แผลเล็กแผลน้อยต้อยตีวิดกันอยู่บ่อย ๆ ทั้งจากเจ้าตัวแสบมั่งล่ะ จากสภาวการณ์ที่เจ้าตัวแสบกระทำมั่งล่ะ เรียกได้ว่า ชีวิตไม่เคยว่างเว้นจากการเป็นแผลข่วน จิก มิคสัญญีกันเลยทีเดียว


นับจากวันที่รับกะทิเข้ามาอยู่ด้วย ก็ปาเข้าไปสองปีแล้วค่ะ เวลาผ่านไปเร็วเนอะ ดูเหมือนกะทิเริ่มจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับสถานที่อยู่สถานที่กินมากขึ้นแล้ว แต่ไอ้อาการที่เมื่อ "หลุด" ออกไปจากออฟฟิศแล้ววิ่งแร่ดกระเจิดกระเจิงไม่ยอมให้อิ่เจ๊หรือใครๆ จับนี่..ทำไมไม่หายไปซะทีก็ไม่รู้


เมื่อวานนี้ก็เอาอีกแล้วฮ่ะ คือ..ต้องบอกกันก่อน ว่าปกติแล้ว กะทิกับโกกิ เป็นแมวที่อิ่เจ๊ตั้งใจเลี้ยงระบบปิด ทั้งสองตัวจะมีกรงใหญ่ส่วนตัวเอาไว้นอนเล่นนอนรออิ่เจ๊หรือใครๆ อยู่ที่ใต้ตึก ซึ่งไอ้เจ้ากรงนี้ก็ค่อนข้างจะใหญ่โตพอสมควรฮ่ะ คืออิ่เจ๊พยายามเลือกกรงที่มีพื้นที่กว้างขวางพอที่จะให้นั่งเล่น นอนเล่น ปีนเล่นได้โดยไม่อึดอัดตั้งแต่แรกแล้วอ่ะนะคะ เพราะสองแสบจะต้องอยู่ในนั้นนานกว่าวันละ 19 ชม. เรียกว่าต้องอยู่ในกรงตั้งแต่ช่วงบ่ายหรือเย็น ไปจนถึงช่วงเที่ยง ๆ ของอีกวันหนึ่ง..ซึ่งพออิ่เจ๊ไปทำงานก็จะได้มีโอกาสเข้ามากินอาหารเปียกสุดโปรด วิ่งเล่น กอดรัดฟัดเหวี่ยงกับบรรดาพี่ๆ คนเลี้ยง แล้วก็อิ่เจ๊สัก 2-3 ชั่วโมง ก่อนจะส่งตัวกลับเข้ากรงต่อ


ดังนั้นพื้นที่ประจำที่เด็กสองตัวได้อยู่ ก็คือ กรง แล้วก็ ออฟฟิศแค่นั้นแหละ หรือหากวันไหนอิ่เจ๊มีเวลา ก็จะผูกเชือกพาไปเดินเล่นข้างนอกบ้าง แต่ก็ไม่เคยวางใจจะให้ออกไปเดินโดยไม่มีสายจูงอ่ะนะคะ เนื่องจากก่อนหน้านั้นเคยไว้ใจให้เดินมาแล้ว และเกิดปัญหาว่า เดินๆ เล่นไป พี่กะทิไม่ยอมกลับเข้าบ้านซะงั้น วิ่งหน้าเริ่ดจะเข้ารกเข้าพงหลังตึก หรือไม่ก็พยายามจะโดดข้ามรั้วไปที่หอพักข้างๆ นู่น เล่นเอาอิ่เจ๊วิ่งไล่จับจนลมเกือบแดรกมาหลายครั้งแล้ว ดังนั้น..ด้วยความกลัว..ว่าถ้ากะทิกับโกกิหลุดออกไป จะต้องวิ่งเตลิดหนีหายไปแน่นอน อิ่เจ๊ก็เลยพยายามที่จะระมัดระวังไม่ให้เด็กทั้งสองตัวนี่หลุดเป็นอันขาด

แต่ความระมัดระวังก็ไม่ได้เป็นเครื่องหมายการันตีว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย ไม่มีปัญหาเด็กหลุดออกจากออฟฟิศได้เสมอไปนะคะ ยกตัวอย่างก็เพิ่งเมื่อเกือบ 20 ชั่วโมงที่ผ่านมานี่เอง...จู่ๆ ยัยกะทิก็ "หลุด" ออกจากออฟฟิศ ด้วยการมุดตะแกรงตรงหน้าต่างออกไปซะงั้น T^T


เรื่องของเรื่องคืองี้ฮ่ะ เมื่อวานช่วงบ่ายกะทิกับโกกิก็วิ่งเล่นกันตามปกตินั่นล่ะ แล้วจู่ ๆ กะทิก็โดดเทคตัวเอาหัวพุ่งชนตะแกรงที่อิ่เจ๊เอามาแขวนปิดช่องหน้าต่างออฟฟิศเอาไว้ เผอิ้น..ไอ้เจ้าตะแกรงพรรค์นี้มันพับกลางได้อ่ะ มันก็เลยเกิดเป็นช่องโหว่ด้านล่าง ซึ่งอิ่เด็กเผือกนี่ก็ไวปานว่อก..พอเห็นช่องปุ้บ แม่มมม...มุดออกไปปั๊บ ไวยังกะลิง !! ขนาดอิ่เจ๊วิ่งใส่ติงหมาจนไปเตะเอาโต๊ะตัวใกล้ๆ ก็ยังคว้าตัวไว้ไม่ทัน ผลหรือคะ..อิ่เจ๊ยืนสตั๊นด้วยความตกใจตรงช่องหน้าต่าง ในขณะที่เด็กแสบวิ่งออกไปบนลานจอดรถมอเตอร์ไซค์หลังตึกด้วยอาการลิงโลดสุดกู่..

เดชะบุญฮ่ะ...ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตัวกะทิเองก็แปลกใจอยู่นิดๆ รึเปล่า ที่จู่ๆ ได้ออกมาเดินนอกออฟฟิศ โดยไม่มีเชือกจูงของอิ่เจ๊ เพราะมันใส่ติงแมววิ่งออกไปราวๆ 50 เมตรได้ แล้วก็หยุดกึ้กเอาดื้อๆ..ก่อนจะหันมาสบตากับอิ่เจ๊ด้วยโหมดสโลโมชั่น ท่าทางคงจะงง ๆ ว่าทำไมอิ่เจ๊อยู่ข้างในแล้วตรูมาอยู่ข้างนอกฟระ นาทีนั้นอิ่เจ๊ไม่ได้คิดถึงอาการเจ็บติงและแผลที่ตัวเองได้จากการวิ่งไปเตะโต๊ะหรอกฮ่ะ เพราะต้องรีบตะโกนบอกลูกน้องในออฟฟิศทันทีด้วยอารามร้อนรนกลัวกะทิจะออกวิ่งไปไกลกันใหญ่

"ไอซ์...กะทิหลุด !! "

"ห๊ะ...." ลูกน้องคนสวยที่นั่งจัดการบิลใบเสร็จผู้เช่าพักอยู่ลุกพรวด แล้วก็รีบวิ่งออกจากออฟฟิศออกไปทางประตูหลัง ส่วนอิ่เจ๊ก็วิ่งไปทางประตูหน้า สรุปก็คือ ตอนนั้นยัยกะทิถูกดักอยู่ตรงกลางระหว่างสองเจ๊ ซึ่งแน่นอน ก่อนที่อิ่เจ๊จะออกไป ก็คว้าถุงขนมแมวออกไปด้วย กะว่าจะใช้มุขเก่าล่อให้มากินขนมก่อนตะครุบตัวไว้นี่แหละฟระ จะได้ผลรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่ก็ไม่มีวิธีไหนที่กะทิจะยอมให้จับตัวแล้ว

สถานการณ์ตอนนั้นตึงเครียดมากฮ่ะ อิ่เจ๊คนงามดักไว้ด้านหนึ่ง ส่วนพี่ไอซ์ก็ดักไว้อีกด้าน ส่วนด้านขวาก็เป็นรั้วอิฐบล็อกของหอพักอื่นซึ่งกะทิเคยโดดหนีเข้าไปมาแล้ว และแน่นอนว่า..คราวนี้ถ้าโดดเข้าไปอีก มีหวังได้เตลิดเปิดเปิง ถูกคนอื่นอุ้มไปไม่ได้กลับบ้านแน่ๆ อย่ากระนั้นเลย อิ่เจ๊พยายามจะไม่ทำให้กะทิตื่นตกใจไปมากกว่านี้ ก็เลยเขย่าซองขนมไปเรื่อยๆ แล้วพยายามเรียกด้วยเสียงอ่อนหวาน

"กะทิ...กะทิ มากินขนมกันมา เร้ววว..." อิ่เจ๊เขย่าซองขนม ได้ผลฮ่ะ กะทิมองมาตากลมป๊อง..แต๊...คิดว่ามันจะยอมมาง่ายๆ เหรอคะ

"นี่ไง มากินขนมเร็ว ขนมที่กะทิชอบไงมา" อิ่เจ๊หยิบขนมอันนึงโยนลงไปบนพื้นไม่ไกลตัวนัก พอขนมหล่นลงบนพื้นปุ๊บ..ยัยทิพุ่งปร๊าด..ออกมาดมขนมค่ะ..แต๊ (ครั้งที่สอง)...มันไม่ยักกินอ่ะ (กรรม) แย่กว่านั้น..พอดมเสร็จแทนที่จะยืนนิ่งๆ ให้เจ๊จับตัว มันกลับวิ่งพรวดออกไปทางพี่ไอซ์ ซึ่งยืนดักอยู่ทางด้านหลังตึก แล้วก็วิ่งเหยาะ ๆ ท่าทางลั้นลาไปทางพงหญ้ารกชัฎด้านหลังโน่น อิ่เจ๊ขอถามสักสามคำฮ่ะ ว่าเอร็งจะไปทำซากอะไรตรงนั้นวะคะ..ฮื้ดดด... T0T


"พี่แหม่ม ๆ อย่าวิ่งตามนะ ถ้ามันวิ่งเข้าพงหญ้าไปล่ะก็ หายแน่นอนเลย" เจ้าไอซ์รีบบอก ประสบการณ์ที่เจ้ายูกิหลุด แล้วหายเข้ารกเข้าพงไปเมื่อสองปีก่อนย้อนกลับมาให้อกสั่นขวัญแขวนกันอีกครั้ง "..เดี๋ยวรอให้มันเข้ามาเองเหอะ มันไม่ไปไหนไกลหรอก"

อิ่เจ๊ใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ แน่นอนว่าจริงอย่างที่ไอซ์พูด ว่าถ้ากะทิตกใจวิ่งหายเข้าไปในป่าด้านหลังก็ไม่ต้องตามกันแล้ว เพราะพงหญ้าที่ว่าสูงกว่าเอวอิ่เจ๊ได้ T^T ทางเลือกก็คือต้องรอให้กะทิใจเย็นๆ แล้วค่อยๆ ตะล่อมจับตัวจะดีกว่า

แต่การณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้นค่ะ เพราะแค่ไม่ถึงสามนาที รถเก๋งของใครก็ไม่รู้ ก็วิ่งมาทางด้านหลังตึก ทำท่าจะมากลับรถที่ยัยกะทิยืนสินะ...ป๊าดดดด...แกจะมากลับรถอะไรอิ่ตอนนี้ @@##%&.....แมวตรูยังหลุดยืนเด่นเป็นสง่าอยู่่นะเฟร้ยย..ฮืออออ....อิ่เจ๊แทบจะเอาหินเฟี้ยงกระจกรถ รีบเดินย่องๆ ไปที่ยัยกะทิซึ่งตอนนี้เดินดมหญ้าอยู่

"กะทิ..มากินหนมมา" เสียงรถเก๋งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และอาจจะเป็นเพราะเห็นอิ่เจ๊เดินขวางประตูทางออกอยู่กระมัง รถเก๋งคันนั้นก็เลยจอดนิ่งอยู่ห่างจากประตูสัก 30 เมตรได้

กะทิเองก็คงได้ยินเสีียงรถยนต์ที่ว่านั่นเหมือนกันฮ่ะ และเดาเอาว่า อาจจะกลัวเสียงรถด้วยรึเปล่า เพราะมันวิ่งเหยาะ ๆ กลับมาหาอิ่เจ๊ซึ่งโยนขนมไว้บนพื้นทันที พอเข้ามาในระยะเอื้อมถืงปั๊บ อิ่เจ๊ก็รีบใช้มือกดหลังมันไว้แล้วอุ้มมันขึ้นมากอด...โอ้โห..นาทีนั้น ดีใจซะยิ่งกว่าถูกหวยสามตัวล่างอีก T^T นี่ถ้ามันไม่ยอมวิ่งมาหา ป่านนี้ก็คงหลุดไปเป็นไอ้ลูกหมาหลงแม่ถึงไหนต่อไหนแล้วมั๊ง...

อิ่เจ๊มันใจคอยังไม่ดีอยู่ฮ่ะ ระหว่างอุ้มกะทิไปใส่กรง ก็พูดกับน้องไปด้วยว่าออกมาทำไม...ถ้าหลงไปกลับบ้านไม่ได้นะ คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ..คือประเด็นก็ไม่รู้ว่ากะทิจะฟังรู้เรื่องมั้ย แต่อิ่เจ๊มันอยากพูดอ่ะ

หลังจากพากะทิกับโกกิกลับใส่กรงเรียบร้อยแล้ว แผลที่วิ่งเตะโต๊ะก็เริ่มออกฤทธิ์ค่ะ อิ่เจ๊เองก็เพิ่งจะเห็นว่ามันถลอกปอกเปิกเป็นแผลมีปริมาณเลือดออกนะ แล้วก็ปวดตุ้บ ๆ ด้วย เรียกว่าอาการเจ็บมาเต็ม..ก็ได้แต่รีบเข้าไปล้างแผลด้วยน้ำสะอาด แล้วก็เดินเขยกๆ เคลียส์พื้นที่ภายในออฟฟิศปานประหนึ่งคนเหล็กกันต่อไป

จากเหตุการณ์ครั้งนี้สอนให้รู้ว่า..จงอย่าไว้ใจตะแกรงกันหน้าต่างเด็ดขาดฮ่ะ และยิ่งกว่านั้น จงอย่าไว้ใจแมวเผือกว่าจะไม่พยายามหนีออกจากออฟฟิศออกมาข้างนอกด้วย ลำพังออกมาเดินเล่นธรรมดาๆ อิ่เจ๊ไม่ว่ากระไรหรอกฮ่ะ ปัญหาคือวิสัยแมว..มันชอบเที่ยวอ่ะ และการเที่ยวของกะทิก็อาจเป็นที่มาของการกลับบ้านไม่ได้ เนื่องจากกะทิเองไม่เคยออกไปเดินไหนไกลกว่าบริเวณตึก แถมแม่กะทิยังเป็น แมวขาวมณีตาสองสี ซึ่งแน่นอนว่าเสี่ยงต่อการถูกอุ้มต่อไปเป็นทอดๆ เป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้อิ่เจ๊ก็เลยต้องพยายามบอกเด็ก ๆ ในออฟฟิศทุกคนให้ระมัดระวังมากขึ้นฮ่ะ และคาดว่าคงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่อิ่เจ๊จะต้องเผชิญกับความอกสั่นขวัญแขวนแบบนี้

ก็หวังว่าจะไม่ต้องมีเรื่องให้ต้องใจแป้วแบบนี้บ่อยๆ ก็ละกันนะคะ

อารมณ์มา................ T^T



อิ่เจ๊ของสองแสบ