วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

โกกิหลังการทำหมัน


ผ่านมาได้ 11 วันแล้ว นับตั้งแต่จับยัยโกกิไปทำหมันที่คลินิคใกล้บ้าน ขอบอกว่า ณ.บัดนาว ไอ้กิมันแปรสภาพจากแมวธรรมดาเป็นแมวลิงเรียบร้อยแล้วค้าาาา.... T^T

หลาย ๆ คนที่เคยพาแมวไปทำหมัน อาจจะออกมาเคลมกันว่า แมวของตัวเองเรียบร้อยขึ้น ขี้อ้อนขึ้น อยู่ติดบ้านมากขึ้น เที่ยวน้อยลง ซึ่งจริง ๆ แล้วสำหรับเคสไอ้กิ อิชั้นว่ามันก็มีส่วนอยู่มั่งฮ่ะ แต่ก็ช่างเล็กน้อยต้อยตีวิดจั๊กนัก ไอ้ที่เห็นชัด ๆ ก็คงจะมีอย่างเดียว นั่นก็คือ การยอมให้อิชั้นจุ้บมั่ง กอดมั่ง แล้วก็มักจะเดินมาแด๊ะแด๋ทักทายอิชั้นบ่อยกว่าแต่ก่อน

ที่ผิดไปจากก่อนหน้าการทำหมันมีอีกอย่างนึงก็คือ พฤติกรรมการกินนั่นล่ะฮ่ะ โกกิกินอาหารเก่งขึ้น เทอาหารเปียกให้แป๊บเดียวแม่ฟาดเรียบ !! บางทีกินของตัวเองยังไม่ทันหมดดีเลย ยังมีหน้าเอาหัวไปดุน ๆ ไล่พี่กะทิจนพี่กะทิต้องหลีกทางให้น้องกินของตัวเองต่ออีกด้วย

ส่วนเรื่องแผลที่พุง เท่าที่สังเกตด้วยตาเปล่าก็แลดูเรียบร้อยดีน่ะนะคะ อิชั้นถอดเสื้อป้องกันการกัดแผลผ่าตัดให้ตั้งแต่วันที่ 9 ละ ก็ยังไม่มีอาการแทะแกะเกาแผลแบบผิดปกติแต่อย่างใด แต่ก็ไว้ใจไม่ได้ฮ่ะ ทุกครั้งที่มีคนไปเติมข้าวในกรงให้ อิชั้นก็มักจะสั่งให้ลูกน้องจับโกกิดูแลที่พุงบ่อย ๆ


อา...ในที่สุดความสงบก็กลับคืนสู่ออฟฟิศอิชั้นซะที (เหรอ ??!!.....) เรามาดูภาพยัยโกกิกับพี่กะทิหลังพักฟื้นมา 11 วันกันนะคะ







เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai




แจ่มใสขึ้นเยอะ


ความเดิมตอนที่แล้วโกกิกลับมาอยู่บ้านหลังถูกส่งไปทำหมันที่คลินิคหมอใกล้ตึกมา 3 วันแล้วฮ่ะ หุหุ

ช่วงครึ่งวันแรกที่รับโกกิกลับมา กะทิไม่ยอมเข้าหาน้องเลย เอาแต่ขู่แฟร่ด ๆ แถมพอน้องพยายามเข้าใกล้ก็ยังตบน้องโชว์อิ่เจ๊อีก เล่นเอาอิ่เจ๊เริ่มกลุ้ม ว่าแล้วคืนนี้ไอ้กิมันจะนอนในกรงรวมกับพี่กะทิได้มั้ยล่ะเนี่ย >.<

แต่ดูเหมือนว่าความรักน้องจะมีอานุภาพมากกว่ากลิ่นยาและกลิ่่นโรงหมอที่ติดตัวโกกิมาฮ่ะ เพราะพอตกถึงเย็น กะทิก็ยอมให้น้องเข้าใกล้ แถมพอแอดมินพาโกกิไปส่งที่กรง กะทิก็เลียหัวให้น้องอีกหลายแผล็บ แม้ว่าจะมีอาการตาโต ตีหางเหมือนไม่พอใจเป็นระยะ ๆ แต่คาดว่าก็คงเพราะเหม็นยาที่อิ่ตัวน้องนั่นล่ะ


ช่วงนี้เด็กกิต้องกินยาตามที่หมอสั่งฮ่ะ ยาที่หมอให้มามีสองซองด้วยกัน เป็นยาแก้ปวดซองนึง กับยาแก้อักเสบอีกซองนึง ตอนเช้ากินเฉพาะยาแก้อักเสบ ส่วนตอนเย็นกินทั้งยาแก้ปวดและแก้อักเสบ ซึ่งแน่นอนว่าคนที่รับหน้าที่ป้อนยานี้ไม่ใช่อิ่เจ๊มันหรอก แต่เป็นลูกน้องที่ตึก ซึ่งรับหน้าที่นี้มาตั้งแต่ตอนโกกิเป็นไข้หวัดเมื่อหลายเดือนก่อนละ

สามวันผ่านไป อิ่เจ๊มันก็พาโกกิกลับไปให้หมอดูแผล โชคดีที่โกกิใส่เสื้อปิดพุงไว้ ก็เลยไม่เสี่ยงกับการกัดทึ้งแผลที่พุงตัวเอง สรุปว่าแผลยังอยู่ดีมีสุข เป็นอันว่าสามารถมาตัดไหมเปิดพุงโชว์ได้ในวันพฤหัสหน้าที่จะถึงนี้

เรื่องอาการซึมของยัยกิก็ดีขึ้นตามลำดับฮ่ะ จากวันแรก ๆ ที่หงอยเป็นแมวถ่านอ่อน พอล่วงเข้าวันที่สี่ คุณน้องก็เริ่มฤทธิ์เยอะ เริ่มช่วนพี่กะทิเล่น กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่นั่นแหละ ทำเหมือนไม่เคยเล่นกันมาเป็นชาติ


ที่แปลกกว่าตอนก่อนหน้าที่จะพาไปทำหมันก็คือ อาการอ้อนอิ่เจ๊ฮ่ะ..โกกิอ้อนขึ้นมาก เรียกว่ากลับมาจากร้านหมอแล้ว อ้อนเก่งจนผิดกันไปคนละตัวเลยล่ะ กินข้าว-กินน้ำเสร็จ เป็นต้องโดดขึ้นมานั่งบนตัก แหงนหน้าเชิด ๆ ทำตาพริ้ม ๆ ให้อิ่เจ๊จุ๊บ ๆ ตะหมูกให้ บางวันหนักกว่านั้น ปีนขึ้นพนักพิงโซฟาด้านหลัง แล้วมาเลียหัวให้อิ่เจ๊แทนซะงั้น


สรุปว่างานนี้โกกิฟื้นตัวเร็วมากฮ่ะ นั่นอาจจะเป็นเพราะพื้นฐานของโกกิเป็นแมวที่แข็งแรงระดับหนึ่งอยู่แล้วก็ได้ อีก 2 วันจะได้ฤกษ์พาไปตัดไหมที่พุงออกน่ะนะคะ งานนี้จะได้ถอดเสื้อให้เลียขนแต่งเนื้อแต่งตัวตัวเองได้ซะที..^^ เข้าใจเลยนิ ว่าคงรำคาญอิ่เสื้อเหลืองตัวนี้แย่แล้วอ่ะ

แล้วกลับมาพบกันใหม่วันที่โกกิไปตัดไหมเรียบร้อยแล้วนะคะ :)


เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai