วันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เพื่อนต่างสายพันธุ์


จิ่บอกว่าหลาย ๆ ครั้งที่อิชั้นเคยดูวีดีโอทางยูทูปแล้วเห็นหมากับแมวเล่นด้วยกันได้ อยู่ด้วยกันได้ แล้วก็ให้นึกอยากให้ยัยกะทิกับบรรดาหมา ๆ ทั้ง 7 (ล้อเล่งงง..มีไม่เยอะขนาดนั้นหรอก แหม่~) ผูกมิตรกันได้เหมือนหมากะแมวที่อยู่ในคลิืปมั่งอ่ะนะคะ


วันสองวันมานี่ อิชั้นก็พยายามจะเริ่มต้นคู่ของยัยกะทิกับเจ้าแครอทก่อน เคยเล่าให้ฟังไปมั่งแล้วอ่ะเนอะ ว่าเจ้าแครอทเป็นหมาพันธุ์ชิสุของพี่แม่บ้าน ที่มีบุคลิกเรียบร้อยน่ารัก แล้วก็ขี้อ้อนมาก ที่สำคัญ แครอทเป็นหมาที่ดูท่าจะสนอกสนใจยัยกะทิเป็นพิเศษ เพราะทุกครั้งที่พี่แม่บ้านปล่อยตัวออกมานอกห้อง ก็มักจะวิ่งปรู๊ดไปที่กรงยัยกะทิ แล้วก็นั่งดู นั่งเฝ้าได้คราวละเป็นชั่วโมง ๆ เสมอ

อย่ากระนั้นเลยฮ่ะ ไหน ๆ ยัยกะทิก็เป็นแมวเลี้ยงเดี่ยว ไม่มีเพื่อนมีฝูงที่เป็นสัตว์สปีชี่ส์เดียวกันแระ ก็ลองให้ฝึกให้เจ้าสองตัวนี่เป็นเพื่อนกันให้ได้จะเป็นไร 


ส่วนตัวยัยกะทิเอง อิชั้นว่ามันไม่กลัวเจ้าแครอทสักเท่าไหร่หรอกฮ่ะ เพราะเมื่อตอนที่กะทิอยู่บ้านเดิมของพี่สาว มันก็อยู่กับ "เจ้าเป็นหมา" ซึ่งเป็นหมาพันธุ์ลาบาดอร์ใหญ่ยักษ์๋ของที่บ้านเค้าตัวนึงอยู่ละ อยู่ในที่นี้ก็คือ เดินผ่านกันได้ โดยไม่ตบ ไม่จิก ไม่กัด ถึงแม้จะไม่ได้เล่นนัวเนียกันเป็นพิเศษอะไรก็เถอะ

เมื่อวันก่อนนู้นอิชั้นเริ่มต้นจากการทดลองนำยัยกะทิมาอยู่ร่วมออฟฟิศกับเจ้าแครอทฮ่ะ ซึ่งก็แน่นอนว่า รายการนี้ยัยกะทิดูระแวดระวังตัวค่อนข้างมาก ไม่นับเจ้าแครอทที่อยากรู้อยากเห็นว่ากะทิเป็นตัวอารายตลอดเวลา ใช้เวลาให้แต่ละตัวนอนจ้องตากันไปมาอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง ยัยกะทิถึงจะทำใจกล้าโดดลงจากโซฟาเดินย่อง ๆ ไปตรงโน้นตรงนี้ได้มั่ง

เมื่อวานอิชั้นก็เลยเอาใหม่ฮ่ะ...คราวนี้ใช้ยุทธวิธีมีของเล่นให้ืเล่นมาช่วย อิชั้นกางอุโมงค์ผ้าให้ยัยกะทิโดดเข้าไปกลิ้งเล่นเพื่อเป็นการคลายความกังวลเกี่ยวกับเจ้าแครอท และเป็นการเพิ่มที่หลบซ่อนเมื่อยามที่รู้สึกไม่ปลอดภัยได้อีกด้วย ผลก็ออกมาค่อนข้างดีอ่ะนะคะ เพราะยัยกะทิดูกลัวเจ้าแครอทน้อยลง เสียแต่ว่าเจ้าแครอทดั๊น..กลัวยัยกะทิแทนซะนี่ อุอุ..เรามาดูท่าทีของหนึ่งหมากับหนึ่งแมวที่กำลังจะกลายเป็นเกลอกันในภายภาคหน้าด้วยกันนะคะ




เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai


วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

มาเล่นกันเถอะ ๆ


ที่ตึกของอิชั้นนอกจากจะมีแม่กะทิพุงโตที่เป็นขาใหญ่ประจำกรง (เนื่องจากมันครองอยู่คนเดียว ฮา~) แล้ว ก็ยังมีน้องหมาอีกสองตัวของพวกแม่บ้านที่อุปนิสัยแตกต่างกันมากมายฮ่ะ

น้องหมาตัวแรกชื่อเจ้าตุ่น เป็นหมาพันธุ์ชิสุที่ร่าเริงที่สุดในสามโลก >0</ คือ..ใครจะยังไงอะไรไม่รู้ล่ะ ตรูขอโดด ขอวิ่ง ขอรื่นเริงไว้ก่อน กับน้องหมาอีกตัวชื่อเจ้าแครอท ซึ่งก็เป็นพี่น้องครอกเดียวกับเจ้าตุ่นนั่นล่ะ เพียงแต่ตัวนี้จะสงบเสงี่ยมเรียบร้อยกว่า แต่ถ้าได้เข้าคู่กันแล้ว ก็ซนสะบัดช่อได้ไม่แพ้กันเลยทีเดียว

ด้วยความที่กะทิเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นของแปลกสำหรับสองหมา เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมาไม่ได้ออกไปเยี่ยมกรายที่ไหนนอกจากในบริเวณตึก หลายครั้งเลยทีเดียวฮ่ะ ที่ป้าแม่บ้านมาเล่าให้ฟังว่า สองหมามักจะแวะเวียนไปเยี่ยมเยียนกะทิที่กรงเสมอ

โดยเฉพาะเจ้าแครอทนี่ดูจะสนอกสนใจกะทิมากเป็นพิเศษ เพราะหากป้าแม่บ้านปล่อยตัวออกมาวิ่งเล่นนอกห้องเมื่อใด เจ้านี่ก็มักจะมานั่งเฝ้าหน้ากรงยัยกะทิสักนิดสักหน่อยเป็นประจำ ประมาณว่า ไหนดูสิ..จะมีใครปล่อยไอ้เจ้าตัวนี้ออกมาเล่นกับตะเองบ้างมั้ย

เมื่อวานนี้เป็นฤกษ์ดีฮ่ะ อิชั้นเอากะทิเข้ามาไว้ในออฟฟิศเรียบร้อยละ แม่กะทิก็นั่งเล่น เดินเล่น วิ่งเล่นไปตามเรื่อง สองหมาจอมแสบก็วิ่งหน้าตั้งมาโดดหยองแหยงอยู่หน้าประตูออฟฟิศ ประมาณว่าจะขอเข้ามาเล่นด้วยว่างั้นเหอะ แต่ด้วยความที่ป้าแม่บ้านเจ้าของเจ้าตุ่นรู้ดีว่า ขืนปล่อยให้เจ้าตุ่นเข้าออฟฟิศมา มีหวังได้เฮฮาปาจิงโกะกันออฟฟิศแตกแน่ ก็เลยรีบเรียกเจ้าตุ่นไปก่อน เหลือแต่แครอทที่ยืนหน้าเริ่ดบิดตรูดบิดหางรออยู่หน้าประตู สุดท้าย...น้องเสมียนก็ใจอ่อนปล่อยเจ้าแครอทเข้ามาซะงั้น

งานนี้หนึ่งหมากับหนึ่งแมวได้เผชิญหน้ากันโดยไม่มีกรงป้องกันภัยฮ่ะ กะทิไม่ตื่น ไม่ขู่ แต่ก็ดูเหมือนระแวดระวังตัวอยู่ไม่น้อย (คาดว่าเพราะกะทิเองก็คุ้นชินกับหมาใหญ่ที่บ้านเดิมอยู่บ้างแล้ว)..แครอทก็ไม่เห่าพี่กะทิ แต่ทำท่ากระดึ้บกระดั๊บอยากเล่นด้วยซะเต็มประดา..ผลสุดท้ายเมื่อต่างฝ่ายต่างจ้องกันสักพัก กะทิก็โดดลงจากโซฟา แล้วค่อย ๆ ย่องเข้าบ้านของตัวเองไปดื้อ ๆ

แครอทยังไม่ละความพยายามที่จะผูกมิตรกับพี่กะทิฮ่ะ เรามาแอบดูวิธีผูกสัมพันธไมตรีของเจ้าแครอทกันนะคะ


แครอท : เฮ้..ตะเอง เก๊าชื่อแครอทน๊า..เรามาเป็นเพื่อนกันเถอะ
พี่กะทิ : .....ไม่.....
แครอท : น่า..นะ เก๊าอยากเล่นกะตะเองอ่ะ เก๊าไม่กัดตะเองหรอก เก๊าแค่อยากเล่นด้วยเท่านั้นเอง
พี่กะทิ : ......ไม่ !!!...


แครอท : พี่ก๊าป..ไอ้ตัวหัวกลม ๆ พุงย้อย ๆ หน้าแปลก ๆ ในบ้านนั่น มันไม่ยอมเล่นกะเก๊าอ่ะ..
อิ่เจ๊ : ชวนไปเรื่อย ๆ สิจ๊ะ..เดี๋ยวพี่เค้าก็เล่นด้วยเองแครอท


แครอท : ตุเอง..มาเล่นกันเถอะ..มาเล่นกันเถอะ..
กะทิ : ............ไม่..............!!
อิ่เจ๊ : 55555+


ด้วยความสงสานเจ้าแครอท อิชั้นก็เลยอุ้มยัยกะทิออกมานอนบนโซฟาให้สบตาปิ๊งปั๊งกันไปเรื่อย ๆ สักพัก กะทิก็เดินปลีกตัวออกไปนอนบนโซฟาอีกมุมหนึ่ง โดยมีเจ้าแครอทนอนเฝ้าอยู่บนพื้นตามเคย

เอ..แล้วเมื่อไหร่สองตัวนี้จะส่ายตรูดส่ายหางด้วยกันได้เนี่ย เรามาติดตามความคืบหน้าของความสัมพันธ์ของเพื่อนต่างสปีชี่ส์ระหว่างพี่กะทิกับน้องแครอทได้ในตอนต่อ ๆ ไปนะคะ :)




เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai


วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

สนุกจริง ๆ แม่คุณเอ๊ย..


หลาย ๆ คนคงเคยเห็น หรือผ่านตาตะกร้าผ้าโครงลวดแบบพับได้ที่มีราคาตั้งแต่หลักไม่ถึงร้อยไปจนถึงไม่เกิน 3-400 บาทกันมาบ้างแล้วอ่ะนะคะ

จริง ๆ ไอ้ตระกร้าผ้าแบบนี้อิชั้นก็เคยผ่านตาหลายครั้งฮ่ะ เพราะมันมีวางขายอยู่หลายที่เลยทีเดียว แต่ก็ไม่ได้นึกอยากได้ หรือซื้อหาเอามาใช้อะไรนัก เพราะรู้สึกว่าที่บ้านก็มีตระกร้าพลาสติกใช้งานอยู่ละ จะซื้อมาทำไมให้เปลืองตังค์ฟระ

จนเมื่อวันก่อนบังเอิ๊นน..เปิดไปเจอบล็อกของคนรักแมวบล็อกนึงเข้าฮ่ะ เธอเล่าว่าเธอได้ซื้อไอ้เจ้าตระกร้าผ้าโครงลวดแบบพับได้แบบนั้นมาให้น้องแมวของเธอใช้เป็น ของเล่น..อิชั้นก็..ห๊ะ..อะไรนะ ซื้อมาให้เจ้านายตัวแสบที่บ้านเล่นงั้นเหรอ ยังไงอ่ะ..พอเห็นภาพความสนุกของมะแมวกับอุโมงค์ผ้าที่เธอเก็บมาฝากปั๊บ อิชั้นก็ปิ๊ง..ตาโตเป็นไข่ห่าน ห่าน ห่าน อยากได้ขึ้นมาให้ยัยกะทิขึ้นมาทันควัน

อย่ากระนั้นเลย ไปซื้อกันเถอะ ไปซื้อกันเถอะ !! (ฮา~) ผ่านไปไม่ทันถึงสองวัน อิชั้นก็เผ่นแน่บไปซื้อไอ้เจ้าตระกร้าผ้าแบบที่เห็นตัวอย่างในบล็อกนั้นจากโฮมโปรมาอันนึงเลยค่ะ

ไหน..ลองเอามาอวดยัยกะทิหน่อยสิ ว่ามันจะยอมเข้าไปเล่นแบบเดียวกับน้องแมวของเจ้าของบล็อกนู้นมั้ย..


กางปุ๊บ วางตะแคงปั๊บ แม่กะทิก็เข้ามาดม ๆ ประมาณเทสต์สินค้าเล็กน้อยฮ่ะ อิชั้นก็เลยเอากระพรวนโยนนำทางเข้าไปในรอยแยกของผ้าปากตระกร้า..ได้ผลแฮะ แม่นี่มุดพรวดตามเข้าไปแทบจะในทันทีอ่ะนะคะ..อุอุ...^0^/


ได้ยินเสียงกระพรวนกรุ๋งกริ๋ง ๆ พร้อมกับตระกร้าผ้ากลิ้งโคโล่ไม่หยุดหย่อน อิชั้นก็เลยลองเปิดดูว่านังอ้วนมันทำอาราย..


โอ้ว..สนุกจริงนะยะหล่อน..5555+ กลิ้งคว่ำกลิ้งหงายไม่ยอมออกมาจากอุโมงค์เลย แตะปากอุโมงค์ไม่ได้ด้วยนะ แม่นี่..มีตบ !!


ทิ..ทิ..เล่นพอยังลูก..ออกมาเ่ล่นกะเก๊ามั่งม่ะ..


 ไสเจียฮ่ะ..เรียกยังไงก็ไม่ออก 


สนุกได้เป็นพัก ๆ เลยอ่ะ ลืิ่มอิ่เจ๊มันได้ในบัดดล ซึ่งก็ดีเหมือนกัน เพราะระหว่างที่คุณเธอเล่นอุโมงค์ผ้า อิชั้นก็นั่งเซ็นต์งานมั่ง ดูละคอนในทีวีมั่งไปพลาง ๆ ไม่เสียสตางค์เปล่าที่อุตส่าห์ซื้อมาฝากเนอะทิเนอะ..

ใครที่อยากได้ของเล่นราคาไม่แพงให้น้อง แมว ที่บ้านก็ลองมองหาตระกร้าผ้่าโครงลวดแบบนี้มาได้นะคะ นอกจากจะช่วยเพิ่มความสนุกให้กับเจ้าตัวเล็กในบ้านของเราแล้ว เวลาน้องแมวของเราเบื่อ ก็ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์อื่นได้อีกด้วย เอิ่ม..มีข้อแม้ว่าถ้ามันไม่ทำของเราพังซะก่อนอ่ะนะ 555+ T^T แล้วกลับมาพบกับกะทิได้ใหม่ในครั้งหน้านะคะ



เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai


วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

DIY. ของเล่นง่าย ๆ ของยัยกะทิื


ช่วงนี้เป็นช่วงใกล้เปิดเทอมของมหาวิทยาลัยละ ซึ่งก็เป็นธรรมดาล่ะนะฮะ ที่อิชั้นจะงานเยอะขึ้นเป็นเงาตามตัว แต่ถึงแม้จะงานแยะ อิชั้นก็ไม่ได้ให้เวลากับยัยกะทิน้อยลงนะคะ เพราะแม้ว่าจะนั่งเซ็นต์งานอยู่ที่ตึก ก็ยังหอบเอายัยกะทิออกมาเดินป้วนเปี้ยน ๆ วิ่งป่วนคนนั้นคนนี้เค้าไปทั่ว >0</


แต่ด้วยฟามที่อิ่หมู่นี้ยัยกะทิค่อนข้างจะมีเชื้อลิงเข้าสิงฮ่ะ นางก็เลยเที่ยววุ่นวายกับคนอื่นเค้าตลอด ไม่ว่าจะเป็นการย้ายก้นบาน ๆ มานั่งแหมะอยู่บนกองบิลที่กำลังเซ็นต์ หรือเดินผ่าวงประชุมด้วยลีลาดุจนางลิงเอ๊ย..นางสิงห์ ไม่เว้นแม้แต่การโดดโหยงเหยงปานประหนึ่งกำลังแสดงกายกรรมเปียงยางอยู่ ณ.กรุงไทเป ดะไปทุกที่ บนโต๊ะเอย เคาเตอร์เอย หลังโซฟาเอย บนหัวอิ่เจ๊มันเอย T^T..สุดท้ายอิชั้นก็ต้องงัดทีเด็ดออกมาสงบความวุ่้นวายของยัยกะทิให้เข้าที่

วันนี้เราจะหยิบเอากล่องอาหารซองของวิสกัส (ไม่ได้แฝงโฆษณานะคะ 5555+) ที่ยัยกะทิกินหมดแล้วมาทำการดัดแปลงทำของเล่นง่าย ๆ ให้ยัยกะทิใช้เล่นฆ่าเวลาระหว่างรอทุกคนทำงานกันนะคะ

วัสดุอุปกรณ์ก็หาง้ายง่ายค่ะ หากล่องอะไรก็ได้มาสักใบหนึ่ง (เลือกกล่องที่มีขนาดไม่ต้องโตนักก็ดีค่ะ เจ้านายของเราจะได้สนุกกับการแตะอะไรก็ตามที่เราใส่เ้ข้าไปในกล่องได้มั่ง) จากนั้นก็นำกล่องมาทำการเจาะรูกลม ๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 นิ้วที่กล่องด้านนึง 1 รู ส่วนกล่องด้านที่สอง (ด้านไหนก็ได้) ก็ให้เจาะรูกลมที่เล็กลงมาอีก 2 รู ด้วยเส้นผ่าศูนย์กลางสักราว 2 นิ้วก็พอ ยั๊ง..ยังไม่พอฮ่ะ อิชั้นเลือกที่จะเจาะรูเล็ก ๆ อีกสักรูหนึ่งที่กล่องอีกด้าน ขั้นตอนสุดท้ายก็หากระพรวน,กระดิ่ง หรืออะไรก็ได้ที่มีเสียงใส่ลงไปในกล่อง จากนั้นก็ส่งไปให้แมวกะทิเริ่มต้นความสนุกของตัวเองได้เลยฮ่ะ..

ไปดูลีลาของหมากะทิ เอ๊ย..แมวกะทิกันนะคะ


ด้วยฟามที่อิชั้นไม่มีมีด ก็เลยใช้วิธีหนีบ ๆ กล่องแล้วใช้กรรไกรตัดเอา หน้าตา "รู" มันเลยออกมาไม่ค่อยจะสมประกอบสักเท่าไหร่ >.< ยัยทิมันคงนึก...."เจ๊คะ..อิ่กล่องรูเยิน ๆ นี่มันคืออัลไลคะ ???"


อิชั้นยกกล่องขึ้น แล้วเขย่าให้กระพรวนด้านในมีเสียงเล็กน้อย อะฮ้า ได้ผล...ยัยกะทิปรี่เข้าไปเอามือล้วงลูกทันที.."แกร๊...นังกระพรวนตัวแฉบ..ออกมาให้ทิตบเล่นเดี๋ยวนี้น๊าาาา.."


"ฮึ้ย ๆ ๆ ...ออกม๊าาา..แน๊..ดื้อ...ออกมาฉี้...."


มีการก้มลงไปดูด้วยนะคะว่ากระพรวนที่ดังกรุ๋งกริ๋งอยู่ตรงไหน..อุอุ..ทุกครั้งที่ยื่นมือเข้าไปเขี่ย กระพรวนก็จะดังล่อใจตลอด


นับว่าเป็นนวัตกรรมของเล่นของยัยกะทิที่ราคาถูกที่สุด ทำง่ายที่สุด 5555+ แถมได้ผลดีเกินคาดด้วย บ้านไหนที่อยากเพิ่มความสนุกให้มะแมวลองเอาวิธีนี้ไปใช้กันดูนะคะ

สุดท้ายนี้เอาคลิปเคลื่อนไหวของยัยกะทิตอนเล่นกล่องของเล่นมาฝากกันอีกนิดนึงค่ะ..แล้วกลับมาพบกับกะทิได้ใหม่ในครั้งหน้านะคะ


เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai



วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

กะทิ อิ่แมวเคลือบช้อกโกแลต

ล่วงมาถึงเวลานี้ อิชั้นค่อนข้างแน่ใจแล้วฮ่ะ ว่าถึงอย่างไรยัยกะทิมันก็คงไม่หนีไปจากอิชั้นหรอก..แต่ปัญหาก็คือ ถ้ามันเกิดวิ่งออกไปเล่นแล้วกลับบ้านไม่ได้ หรือมีคนจับตัวไว้ไม่ให้กลับล่ะ จะทำยังไงดีน้อกะทิ หุหุ..


เพื่อน ๆ บล็อกหลาย ๆ คนคงเคยผ่านตาวิวัฒนาการของยัยกะทิ นับตั้งแต่วันแรกที่ถูกส่งตัวมาที่ตึก ว่าค่อนข้างตื่นกลัวและตื่นที่ ถึงขนาดเคยหลุดออกไปสองครั้งสองหนมาแล้วน่ะนะคะ นับจากวันนั้นอิชั้นก็พยายามจะฝึกให้ยัยกะทิรู้ให้ได้ฮ่ะ ว่าที่นี่ก็คือ "บ้านใหม่ของกะทิ" นะ ละแวกนี้ก็เหมือนกัน เป็นละแวกบ้านที่กะทิจะต้องทำความคุ้นเคย เพราะอีกหน่อย อิ่เจ๊เองก็คงจะปล่อยให้กะทิออกไปเดินเล่นทีละนาน ๆ มั่ง ไม่ใช่ต้องเดินตามติดกันทุกฝีก้าวขนาดนี้

แต่ความหวังที่จะปล่อยตัวยัยกะทิให้วิ่งเล่นตามใจชอบอยู่ในบริเวณตึก ดูเหมือนจะทำยากอยู่สักหน่อยอ่ะนะคะ เพราะนอกจากบริเวณตึกจะค่อนข้างกว้างขวาง มีลานปูนให้วิ่งเล่นยาวเหยียด ก็ยังมีลานดิน ป่าดงพงไพร และสุมทุมพุ่มไม้บริเวณด้านหลังของตึกให้อิ่เจ๊มันประสาดแดรกเวลากะทิวิ่งปรู๊ดออกไปได้ทุกเมื่ออีกตะหาก


แถมยัยกะทิเองก็ช้อบ..ชอบฮ่ะ..ช่วงหลัง ๆ นี่พอปล่อยออกจากกรงให้ออกมาเดิน หรือวิ่งเล่นยืดเส้นยืดสายปุ้บ เผลอแป๊บเดียวยัยนี่วิ่งออกหลังตึกป๊าบ T^T ร้อนถึงอิ่เจ๊มันต้องรีบวิ่งตาม นี่ถ้าวิ่งเข้ารกเข้าพงไป อย่าหวังเลยว่าจะหาเจอกันง่าย ๆ ตายห่านแน่ ๆ เลยกะทิเอ๊ย..


สิ่งที่ยวนใจที่สุดสำหรับยัยกะทิก็คืออิ่พวกพี่นก พี่แมลง พี่แมงปอ นี่แหละฮ่ะ หลังตึกนี่มีเยอะมว้ากกก..(แกจะเยอะไปไหน..ห๊ะ) ยัยกะทิออกไปทีไร แม่มม..โดดเป็นจิงโจ้ ไล่จับกันเป็นที่สนุกสานทุกที


ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝนด้วยอ่ะ..ทุกครั้งที่ยัยกะทิดอดออกไปวิ่งไล่นกจกแมลงด้านหลังตึก ก็จะมีสภาพไม่ต่างอะไรกับแมวเคลือบช้อกโกแลต T^T โดดจ๋อมนึงก็ลงบ่อโคลน โดดอีกจ๋อมนึงก็ลงบ่อเลน สนุกสนานหาใดจะเปรียบ


เอิ่ม..อิ่เจ๊ไม่สนุกด้วยนะทิ นอกจากต้องพยายามจับแกกลับมาให้ได้ ก็ยังต้องคอยหว่านล้อมไม่ให้แกวิ่งเตลิดเข้าป่าไปอีก >0</...ไม่พูดถึงรอยติงเคลือบช้อกโก้ของแกที่ย่ำเป็นเทือกไปทั้งออฟฟิศนะ


หากโชคดี ไล่จับตัวได้ทันกาล ก็จะมีงานแค่จับล้างขากะพุงเท่านั้น 


จับล้างตัวล้างขาแล้วเช็ดให้แห้งสนิทแล้ว ก็กลับมาซนได้ต่อ ดูหน้ามันอิ่ตอนมาชวนอิชั้นเล่นเด่ะ >.<


อิ่แมวตรูดบานเอ๊ย..5555+ ...สำราญจริงนะแก

แล้วกลับมาพบกับกะทิได้ใหม่ในตอนหน้านะคะ



เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai


ยุทธการป้องกันมด


กะทิเองก็เหมือนแมวเลี้ยงตัวอื่น ๆ ส่วนใหญ่ในสากลโลกฮ่ะ คือ อ้วน..พุงพลุ้ย หัวหลิม เหนียงยาน เย้ย !!?? ม่ายช้ายย..อิชั้นหมายถึงมันต้องกินอาหารเม็ด ซึ่งเป็นอาหารที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนเลี้ยงแทนที่จะต้องมานั่งคลุกข้าวกับปลาทูให้แบบสมัยเก่าอ่ะ >0</ ซึ่งเดี๋ยวนี้อาหารเม็ดก็มีให้เลือกหลายหลากมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรสปลาทู รสโกเม่ (มันคือรสไรวะทิ เจ๊ไม่เคยชิม) รสปลาทะเล และรสอื่น ๆ


แต่ปัญหาของการให้อาหารแมว ไม่ว่าจะเป็นอาหารแบบเดียวกับที่คนกิน หรืออาหารเม็ดแบบที่แมวแหล่ก ก็มักจะมีคล้าย ๆ กันฮ่ะ นั่นก็คือ..บางทีอิ่แมวของเรามันเจือกกินไม่หมดมั่ง อิ่คนเลี้ยงบ้าพลังใส่อาหารให้เยอะเกินไปมั่ง ทำให้บางครั้ง มะแมวต้องรับศึกหนัก ประเภทที่ต้องต่อสู้แย่งชิงเม็ดอาหารกับพวกมด ๆ ซะงั้น

สำหรับยัยกะทินี่ก็เช่นกันฮ่ะ เพราะเป็นแมวตึก พ่อแม่ก็ไม่มี มีแต่อิ่เจ๊ซึ่งงานเยอะจนหูตูบ ทางเลือกของอิ่เจ๊ก็เลยเหมือนคนอื่น ๆ นั่นก็คือซื้ออาหารเม็ดมาไว้ใ้ห้ ซึ่งก็นะ หน้าที่ของการให้อาหารก็จะตกเป็นของป้าแม่บ้านมั่ง พี่เสมียนมั่ง หรืออิ่เจ๊มั่ง แล้วแต่ใครจะว่างและบ้าพลังพอที่จะเติมอาหารเม็ดให้มัน (ขอบอกว่า แม่มมม..เติมกันได้ทั้งวันเลยฮ่ะ ซึ่งไม่น่าเอาเยี่ยงอย่างเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะทำให้แมวของเราตรูดบานโดยไม่ได้ตั้งใจแล้ว ยังเปลืองงบประมาณทางการเงินอีกด้วย )

และด้วยเหตุที่ต่างคนต่างเป็นห่วงอาหารการกินยัยกะทินี่แหละ ทำให้อาหารไม่เคยพร่องไปจากถ้วยของนางเลย..ผลลัพท์หรือคะ ไอ้อาหารที่กินไม่หมด นอกจากจะหมดความหอม ความกรอบอย่างที่มันควรจะเป็นแล้ว บางทีอิชั้นก็ต้องมาเจอกับบรรดากองทัพมดที่พากันมาบุกถ้วยอาหารเม็ดของยัยกะทิจนเต็มพื้นที่อีกด้วย


หลังจากนั่งคิด นอนคิดอยู่หลายวันว่าจะป้องกันข้าศึกยังไงดี สุดท้ายอิชั้นก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมาฮ่ะ ทางเดียวที่จะป้องกันมดขึ้นอาหารเม็ดยัยกะทิได้ ก็คือต้องทำการล้อมคอกกันอาหารเม็ดหายเซี๊ยะก่อน วิธีการหรือคะ อิอิ..

แอ่น..แอ๊นนน...อิ่เจ๊ของยัยกะทิขอนำเหนอ ถ้วยเก็บป๋องนม ราคา 10 บาท เริ่ด หรู ดูดี ชิมิคะ(..ตรงไหน ??!!)


ข้อดีของถ้วยเก็บป๋องนมแบบนี้มีสองประการฮ่ะ คือด้วยความที่มันเป็นถ้วยที่มีสองชั้น (มีชั้นใส่ป๋องนมตรงกลาง แล้วก็มีชั้นสำหรับหล่อน้ำกันมดอยู่รอบนอก) เราจึงสามารถอะแด๊ปเอาอาหารใส่แทนป๋องนม แล้วหล่อน้ำรอบ ๆ กันมดได้ แถมมันยังมีฝาปิด ป้องกันอาหารเม็ดโดนลมแล้วหายกรอบ หายหอมอีกดั้ว


ถ้าไม่ต้องการใช้ฝาปิด ก็เอามาทำเป็นของเล่นให้มะแมวของเราก็ยังดี (เอากับอิชั้นซี๊.....เอิ๊กก..)


พออิชั้นได้ถ้วยมาป๊าบ ก็จัดการเลยฮ่ะ ขั้นตอนแรกก็เอาอาหารเม็ดปริมาณปกติแบบที่เคยใส่ให้ยัยกะทิใส่ลงไปก่อน


จากนั้นก็เติมน้ำนิดหน่อย เพื่อป้องกันไม่ให้มดไต่ถึงบริเวณที่เราใส่อาหารไว้ บริเวณที่เป็นขอบชั้นนอก


ไหนลองปิดฝาดูทีรึ ว่าจะดูดีมีสกุลมั้ย อิอิ..


ผ่านการเทสต์จากผู้ตรวจคุณภาพงานเรียบร้อย ทิบอก..ใช้ได้ฮ่ะ..แค่นี้พี่มดก็มาแย่งอาหารเม็ดของกะทิไม่ได้แย้ว...♥


ไอเดียของการป้องกันมดให้กับถ้วยอาหารของน้องแมวนี่ไม่สงวนลิขสิทธิ์นะคะ ถ้าเพื่อน ๆ ท่านไหนสนใจจะเอาไปทำตามก็เชิญได้เลยค่ะ ก็หวังว่ายุทธการป้องกันมดที่อิชั้นเอามาฝากกันในวันนี้ จะถูกใจแควน ๆ ทาสแมวทุกท่านไม่มากก็น้อยนะคะ ヾ(@^▽^@)ノ



เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai

วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

โลนลี่ กะทิ T^T


เมื่อตอนที่ยัยกะทิ มูฟ ทู เดอะ ดอมิทอรี่ (เดาะภาษาปะกิตซะเลย ให้รู้เซี๊ยะมั่งว่าทิก็เป็นแมวอาเซียนนะยะ กร๊ากกก..) ยัยกะทิเค้าไม่ได้มาเดี่ยว ๆ ฮ่ะ แต่มาพร้อมกับยัยยูกิ ซึ่งเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน ถอดแบบกันมาเด๊ะ ๆ อีกหนึ่งตัว

เป็นที่น่าเสียดายว่าพอเอามายังไม่ทันข้ามวัน อิชั้นก็เดินทางไปต่างจังหวัดซะก่อน ลูกน้องที่ตึกก็หวังดี๊หวังดี นึกว่าแมวเชื่องแล้ว ก็เลยปล่อยออกมาอึมาฉี่นอกกรงซะงั้น ซึ่งก็นะ...พอปล่อยตัวป๊าบบบ..แม่สองตัวนี่ก็วิ่งหน้าตั้งหนีหายเข้ารกเข้าพงเข้าป่า(ล่าสัตว์)หลังตึกปุ้บ T.T (ก็แมวมันยังตื่นที่อ่ะ) เดชะบุญที่ยัยกะทิซึ่งตอนนั้นท้องอยู่ ยังวนเวียนกลับมาให้จับกลับบ้าน ส่วนยัยยูกิหายเข้ากลีบเมฆไปเลย ตามหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอจนกระทั่งบัดนี้


นับตั้งแต่นั้นมา ยัยกะทิก็เลยกลายเป็น แมวเลี้ยงเดี่ยว (คล้าย ๆ กับพืชใบเลี้ยงเดี่ยว 555+) คือไม่มีเพื่อนมีฝูงกับเค้าหรอก ชีวิตมันตื่นมาก็เจอแต่ป้าแม่บ้าน พี่ไอซ์ พี่หน่อง พี่ยาม แล้วก็อิชั้นซึ่งกว่าจะโผล่ไปโอ๋กันก็บ่าย ๆ โน่นล่ะ ถามว่าสงสานยัยกะทิมั้ย..สงสานอย่างแรงอ่ะ คิดดู..ถึงเราจะรักจะโอ๋มันยังไง มันก็ยังต้องการเพื่อนที่เป็นสปีชี่ส์เดียวกันเอาไว้สื่อสารคุยหงุงหงิง หรือเล่นกันบ้างล่ะเนอะ นี่เราเป็นคน คุยกับมันยังไงก็คงไม่เข้าใจภาษาของกันและกันหรอก รู้อย่างเดียวว่ารัก..ยัยตัวเล็กนี่รักทินะ หรือทิก็รักยัยตัวเล็กนี่ แต่ก็เป็นเพียงความรู้สึกที่รับรู้จากภาษากายกันได้เท่านั้น


และเนื่องจากยัยกะทิไม่มีเพื่อนเล่นนี่เองฮ่ะ..อิชั้นก็เลยพยายามจะให้กะทิผูกสัมพันธไมตรีกับน้องหมาที่ตึกซึ่งเป็นน้องหมาของป้าแม่บ้านให้ได้..จริง ๆ ยัยทิก็อยู่กับอิชั้นมาตั้ง 3 เดืิอนละ ก็คงพอจะคุ้นกลิ่นคุ้นตากับหมาตุ่นและหมาแครอทอยู่บ้าง แต่ด้วยความที่อิชั้นกลัวหมาตุ่นซึ่งเป็นหมาที่ร่าเริงที่สุดในสามโลกขย้ำเอา ก็เลยไม่กล้าปล่อยยัยกะทิให้ออกมาทำความรู้จักกับหมาตุ่นนอกกรงเลยสักครั้ง

โครงการก็คือพยายามให้หมาสองตัวกับแมวหนึ่งตัวนี่เล่นด้วยกันได้ฮ่ะ ตอนนี้ก็ให้ทักทายกันโดยมีกรงคั่นกลางเอาไว้ก่อน เดี๋ยวมีโอกาสจะจับทั้งสองตัวมาไว้ในห้องเดียวกัน แล้วค่อย ๆ ให้คุ้นเคยกันทีละนิด ซึ่งหากทำได้ ก็คิดว่ายัยกะทิคงจะหายเหงาไปเยอะ (แต่จะชวนกันซนบ้านแตกรึเปล่าก็อีกเรื่องนึงนะ >_<)

วันนี้เรามาดูลีลาของน้องตุ่นกับความใจกล้าขาใหญ่ของยัยกะทิในการพยายามทำความคุ้นเคยกันนะคะ (คำเตือน กรุณาปิดเสียงก่อนดูคลิปค่ะ 55555+)



เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai