วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556

รีวิวทรายแมวยี่ห้อ เจ ช้อยส์ CAT LITTER


ช่วงฤดูฝนแบบนี้ปัญหาที่หนักใจของบรรดาป้า ๆ ลุง ๆ เอ๊ย..บรรดาพ่อแมวแม่แมวก็คือ ความชื้นในอากาศที่จะมาทำให้ ส้วมแมว ของเราเกิดสภาวะที่อุดมทั้งกลิ่นและความชื้นขึ้นได้อ่ะนะคะ

ยิ่งเป็นทรายที่ไม่ได้ผลิตมาโดยตรงเพื่อใช้ในการเก็บกลิ่นและมูลแมวโดยเฉพาะแล้ว แม่คุณเอ๊ยยย..ก้มลงไปร่อนหาทองทีไร อิชั้นแทบจะหัวโขกฝากรงตายทีนั้น


มันเหม็นจริง ๆ ฮ่ะ ขอโบก..แม้ว่าตลอดมาอิชั้นจะพยายามใช้วิธีหมั่นตักอึของนังกะทิออกไปทิ้ง กับลากกรงและกระบะทรายออกไปตากแดดอยู่เป็นประจำเท่าที่สภาพอากาศจะอำนวยแล้วก็เหอะ แต่จนแล้วจนรอด หน้าฝนเยี่ยงนี้ ทรายก่อสร้างที่อุตส่าห์ลดงบลงมาใช้มันก็ไม่ได้แห้งสนิท แถมยังส่งกลิ่นอบอวลยวนใจ จนไม่อยากจะย่างกรายไปทำความสะอาดกรงยัยกะทิ

อย่ากระนั้นเลย เมื่อหลายตอนที่ผ่านมาไหน ๆ อิชั้นก็ได้แจกแจงประเภทของทรายแมวที่นำมาใช้ในกระบะส้วมของน้องเหมียวหลาย ๆ ชนิดไปแระ ลองซื้อมาใช้ดูหน่อยดีกว่ามะ ว่ามันจะดีจริงสมคำโฆษณาขนาดไหน

อันดับแรกก่อนที่จะแพล่นออกไปซื้อ ทรายแมว มาใช้ อิชั้นก็หาข้อมูลก่อนเลยฮ่ะ ว่าในบรรดาสารพัดยี่ห้อของทรายแมว มีทรายอันไหนบ้าง ที่มีคุณสมบัติเป็นเลิศในราคาที่สบายกระเป๋า แล้วก็ค้นพบว่ายิ่งค้น อิชั้นก็ยิ่งงงงันฮ่ะ เพราะแต่ละคนก็ถูกใจไปคนละแบบ ในที่สุดก็เลิกค้น แล้วก็ออกไปเดินหาดูเองดีกว่า

อิชั้นไม่ได้แวะไปที่ร้านเพ็ทช็อปหรอกนะคะ เนื่องจากมีธุระจะต้องไปซื้ออุปกรณ์บางชนิดจากห้างแมคโคร และโชคดีที่แมคโครเองก็มีพวกอาหารและอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงจำพวกหมาแมวอยู่บ้่างนิดหน่อย หลังจากเดินงง ๆ กับทรายสารพัดยี่ห้อบนชั้นวางอยู่สักพัก อิชั้นก็ตัดสินใจเลือกทรายแพ็คเก็จหน้าตาดีมายี่ห้อนึง เพราะอิ่ตรงหน้าถุงมันโปรยสรรพคุณเอาไว้ว่า เป็นทรายแมวที่จับตัวเป็นก้อนทันทีเมื่อโดนความชื้น

ยี่ห้อที่อิชั้นซื้อมาก็คือ ทรายแมวยี่ห้อ เจ ช้อยส์ CAT LITTER (กลิ่นแอ๊ปเปิ้ล) ฮ่ะ


ซื้อกลับมาที่ตึกปั๊บ อิชั้นก็ลองปุ๊บ ประมาณว่าอยากลองของใหม่เต็มกำลัง


หลังจากล้างกระบะทรายเก่า เช็ดแล้วก็ตากไว้ให้แห้ง อิชั้นก็เททรายแมวของใหม่ลงไปในกระบะฮ่ะ โดยกะความหนาของทรายแมวให้มีความหนาจากก้นกระบะขึ้นมาราว ๆ 1 นิ้วแล้วเกลี่ยให้เสมอทั่วกันทั้งกระบะ จากนั้นก็จับยัยกะทิเข้ากรง แรก ๆ ยัยกะทิก็คงงง ๆ ว่าอิ่กระบะทรายของตัวเองทำไมมันกลายเป็นกลิ่นแอ๊ปเปิ้ลแทนที่จะเป็นฉี่หนูวะ โดดลงไปคุ้ย ๆ ใหญ่ อิชั้นนึกหวั่นใจเล็กน้อย เพราะตลอดมายัยกะทิไม่เคยใช้ทรายของแมวโดยเฉพาะเลย มันจะกล้าใช้งานเหรอ อิชั้นจะเสียงตังค์ฟรีมั้ยเนี่ย

ผ่านไปคืนนึง วันรุ่งขึ้นอิชั้นก็เข้าไปดูผลงานฮ่ะ แรกพบเห็นสภาพของกรงและกระบะทรายเป็นเยี่ยงนี้


เอิ่ม..เม็ดทรายติดติงคุณนายกระทิออกมาเต็มเลยนะเค๊อะ..คือก็เข้าใจล่ะ ว่ามันต้องมีติดมาบ้างอะไรบ้าง เพราะแต่เดิมที่ใช้ทรายก่อสร้างธรรมดา มันก็ติดขายัยกะทิออกมากราดเกลื่อนจนต้องกวาดทำและทำความสะอาดกรงกันทุกวันอยู่แล้ว เพราะเหตุนี้เอง อิชั้นถึงได้ซื้อแผ่นรองกันฝุ่นมาปูไว้หน้ากระบะซะชั้นหนึ่ง


มาดูผลงานของยัยกะทิกันบ้างฮ่ะ เมื่อชะโงกไปดูก็ไม่เห็นจะมีอะไรผิดปกติในตัวทรายแมวเลยสักนิด


ยังไงเนี่ย..ไม่มีทั้งกลิ่น ไม่มีทั้งก้อน ตกลงแกได้เข้าส้วมมั่งมั้ยห๊ะ..กะทิ >.<


 แต่พอลองใช้ที่ตักอึแมวแซะลงไป..เอ๊ะ..นี่มันก้อนอัลไล.. ??


ปรากฎว่าไอ้ก้อน ๆ แข็ง ๆ ที่จับตัวกันใหญ่มหึมานี่คือ ฉี่แมวฮ่ะ 555+ อเมซิ่งมาก เพราะอิชั้นไม่ได้กลิ่นมันเลย แถมพอใช้ที่ตักช้อนมันออก มันก็ไม่ได้แตกเป็นเศษเล็กเศษน้อยแต่อย่างใด เรียกว่าจับตัวเป็นก้อนได้ดีมาก ๆ


สำหรับอึแมว เท่าที่สังเกตทรายมันจะไม่จับตัวอึมากเท่าไหร่นะคะ แต่สภาพของอึแมวจะแห้งไปเอง ไม่มีกลิ่น ตักง่าย ย่นระยะเวลาทำความสะอาดไปเยอะ


อิชั้นไม่กล้าตักอึมันมาให้ดูเยอะฮ่ะ เผื่อบางคนกำลังอร่อยกับขนมหน้าจอ >0</ เอาเป็นว่า คะแนนความพอใจในทรายยี่้ห้อนี้ เต็ม10 อิชั้นให้ 8 ที่หักไปสอง ก็คือดูท่ามันจะเปลืองอยู่ไม่ใช่น้อยเหมือนกัน เพราะปริมาณฉี่แมวที่จับตัวเป็นก้อน ตักทีนึง ก็ออกมาก้อนใหญ่ยังกะหินแน่ะ


ที่สำคัญก็คือ นังกะทิเค้าพอใจฮ่ะ ^0^ เพราะทรายแมวยี่ห้อนี้ไม่ทำให้ส้วมมันเหม็นเหมือนการใช้ทรายก่อสร้างที่เคยใช้อยู่ พอตักเศษสิ่งที่ไม่ต้องการออกจากกระบะทรายหมดเรียบร้อยก็เติมทรายแมวลงไปให้มันอีกนิด ยัยกะทิก็โดดลงไปนอนขดขาทำหน้ากลมในกระบะหน้าตาเฉยซะงั้น

เอาเป็นว่าใครที่กำลังมองหาทรายแมวมาใส่ส้วมให้บรรดาคุณเหมียว ๆ ทีบ้านก็ลองมอง ๆ หาดูก็แล้วกันฮ่ะ สนนราคาที่อิชั้นซื้อมา ถุง 10 ลิตร (8.4 กก.) มันอยู่ที่ 189 บาท ซึ่งก็นะ ยัยกะทิก็ใช้แค่ตัวเดียว อิชั้นว่ามันก็น่าจะใช้ได้ชนเดือนล่ะ เอาเป็นว่าก็รีวิวเอาไว้เป็นทางเลือกสำหรับเพื่อน ๆ ทุกคนก็แล้วกันนะคะ

ไว้โอกาสหน้ามีโอกาสได้ลองทรายแมวยี่ห้อใหม่ จะเอามารีวิวเปรียบเทียบให้ฟังกันอีกค่ะ แล้วกลับมาพบกับยัยกะทิได้ใหม่ในครั้งหน้าค่ะ




เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai