การ เลี้ยงแมวระบบเปิด นั้น ก็คือ การเลี้ยง แมว ที่ให้อิสระเสรีในการไปไหนต่อไหนกับเจ้าเหมียวค่อนข้างมากฮ่ะ หลาย ๆ บ้านมักจะเลี้ยงแมวในลักษณะนี้ คือ เ้จ้าของมีหน้า่ที่ให้อาหาร คลุกคลีบ้างเป็นบางครั้ง แต่ก็จะให้อิสระในการออกเที่ยวกับแมวเท่าที่มันอยากได้
จริง ๆ แล้วการเลี้ยงแมวระบบเปิดนั้น ค่อนข้างจะเหมาะสำหรับวิถีชีวิตของแมวฮ่ะ แอดมินเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบการเลี้ยงสัตว์แบบกักขัง หน่วงเหนี่ยว เพราะนึกถึงความรู้สึกของตัวเองที่หากต้องโดนทำแบบนั้นบ้าง ชีวิตมันคงรันทดน่าดู (คิดแทนแมว เก่งใช่ป่ะล่าาา..) แต่เมื่อมานึกย้อนดูแล้ว การเลี้ยงแมวระบบเปิดนั้นก็มีข้อเสียอยู่หลายประการด้วยกัน อันดับแรกเรามาดูข้อดีของการเลี้ยงแมวระบบเปิดกันก่อนนะคะ
- แมวไม่เครียด เพราะสามารถออกไปเที่ยวเตร่ได้ตามใจชอบ
- บ้านไม่เลอะเทอะเปรอะเปื้อน ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นหรือความสะอาดเนื่องจากการขังแมวไว้ในทีี่จำกัด
นับไปนับมาก็ได้แค่สองข้อ..ไหงงั้นอ่ะ >.< อ่ะ ทีนี้ก็มาดูข้อเสียของการเลี้ยงแมวระบบเปิดกันมั่ง
- เสี่ยงกับการที่แมวสูญหาย เนื่องจากออกไปเที่ยวนอกบ้าน ซึ่งมีสภาพแวดล้อมที่เราไม่สามารถควบคุมได้
- เสี่ยงกับการติดโรคติดต่อของแมวมาจากภายนอก เ่ช่น ไข้หัดแมว,พิษสุนัขบ้า,ลำไส้อักเสบ เป็นต้น
- มีโอกาสเกิดความบาดหมางระหว่างเพื่อนบ้าน เนื่องจากแมวของเราไปทำความเดือดร้อนรำคาญให้
- แมวตัวเมียตั้งท้องแบบไม่พึงประสงค์ เพิ่มจำนวนประชากรแมวภายในบ้านโดยไม่ตั้งใจในแมวตัวเมียที่ยังไม่ได้คุมกำเนิดหรือทำหมัน
- ไม่สามารถควบคุมดูแลการติดปรสิตชนิดต่าง ๆ ได้ เช่น เห็บ หมัด ไร เป็นต้น
นับข้อเสียได้ห้าข้อแล้ว..แอดมินว่า..เลี้ยงระบบปิดกันเหอะ (อ้าว..คุณพี่) เพราะหากชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียทั้งหลายแหล่แล้ว จะเห็นว่าการเลี้ยงแมวระบบปิดมีข้อดีกว่าเยอะมาก แค่ข้อดีตรงที่แมวเราไม่หายกับไม่ติดโรคติดต่อมาจากภายนอกก็คุ้มละ..เอาเป็นว่าใครที่เลี้ยงแมวระบบไหนก็ตามแต่ ก็อย่าลืมให้ความรักและการเอาใจใส่น้องแมวของเราให้มาก ๆ ก็ละกันนะคะ ในตอนหน้าของบล็อกยัยกะทิ เราจะมาดูโรคติดต่อของน้องแมวกันค่ะ ว่ามีโรคอะไรบ้าง แล้วกลับมาพบกันใหม่ในครั้งหน้านะคะ
เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai