วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ป้องกันน้องแมวหายได้อย่างไรบ้าง


2-3 วันมานี้ อิ่เจ๊ของยัยกะทิมีเรื่องกังวลใจอยู่หลายเรื่องเลยฮ่ะ ทุกเรื่องล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ตัวเองแก้ไขเองไม่ได้ทั้งนั้น เพราะเป็นปัญหาที่คนอื่นก่อ ส่วนอิชั้นก็โดนร่างแหให้ตามไปแก้ ปัญหาก็คือบางครั้งรู้สึกว่าคนดีอยู่ยากจังเลย แต่ทำไมคนไม่ดีมันอยู่ง่ายกันจริงฟระ T^T แล้วไอ้ที่ทำความดี คิดดี มาทั้งหมดทั้งมวลนี่ มันไม่ได้ช่วยอะไรเราเลยหรือไง รู้สึกท้อนิด ๆ น่ะนะคะ

อ้าว..ว่าจะมาคุยกันถึงเรื่องวิธีป้องกันน้องแมวหาย ดั๊นนน..มาบ่นเรื่องตัวเองซะงั้น เฮ้อ..

เ้อ้า ๆ เข้าเรื่องฮ่ะ..


หลาย ๆ คนที่เลี้ยงน้องแมวอยู่ที่บ้าน อาจจะเคยเจอปัญหาที่ว่า จู่ ๆ วันนึงก็พบว่าเจ้าตัวแสบแสนรักของตัวเองหายไปไหนก็ไม่รู้ เรียกก็ไม่มา 2-3 ชั่วโมงก็พอว่า แต่บางที 5 วันก็ยังไม่กลับ ซ้ำร้ายกว่านั้น บางตัวหายไปเลยก็มี สร้างความวิตกกังวล ทุกข์ใจแสนสาหัจกับคนที่เป็นเจ้าของน่ะนะคะ

ก่อนอื่นเราก็คงต้องมาเรียนรู้กันก่อน ว่าจริง ๆ แล้วน้องแมวของเรานั้นมันเป็นสัตว์ที่รักอิสระเสรีเหนืออื่นใดเฮ่าะ ถึงแม้มันจะเป็นสัตว์ที่ขึ้นชื่อว่า ติดบ้าน ติดที่อยู่ ติดเจ้าของ แต่ก็มีหลายครั้งเลยทีเดียว ที่มันหลุดออกไปจากบ้าน ประเภทแอบออกไปเที่ยว แล้วกลับบ้านไม่ได้เนื่องจากสารพัดสาเหตุ

อย่ากระนั้นเลย ก่อนที่เราจะเจอภาวิกฤติทางด้านจิตใจเนื่องจากน้องแมวหาย เรามาดูวิธีป้องกันและสารพัดวิธีในการตามหาน้องแมวที่หายไปจากบ้านกันดีกว่านะคะ

วิธีป้องกันแมวหาย(โดยเฉพาะแมวตัวผู้ ที่เที่ยวแรดๆไปจีบสาวบ้านอื่นอยู่บ่อยๆ) อันดับแรกเลยก็คือ การจับแมวทำหมันฮ่ะ เนื่องจากการทำหมันจะทำให้แมวไม่หนีเที่ยวไกลบ้าน ไม่ไปจีบสาวนอกบ้าน ทำให้โอกาสที่แมวเราจะหายไปคราวละหลาย ๆ วันลดลง 

วิธีที่สองก็คือ การเลี้ยงแมวระบบปิดฮ่ะ เลี้ยงระบบปิดคืออย่างไร การเลี้ยงแมวระบบปิด ก็คือการเลี้ยงแมวที่เราจะต้องจำกัดบริเวณที่แมวจะอยู่ได้ เช่น เลี้ยงในกรง เลี้ยงเฉพาะในบ้าน หรือเลี้ยงในรั้วรอบขอบชิดที่แมวไม่สามารถหนีออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกได้ ซึ่งจะแตกต่างจากการเลี้ยงแมวระบบเปิด ซึ่งแมวจะสามารถออกไปเดินเที่ยวนอกบ้านได้ทุกวัน และจะกลับมาก็ต่อเมื่อ หิว หรือนึกได้ว่าต้องกลับเท่านั้น (มันไม่ได้คิดถึงใจคนรอเล้ยยย...)


วิธีที่สามก็คือ การใส่ป้ายชื่อ หรือปลอกคอที่มีทั้งชื่อและเบอร์โทรศัพย์ของเราเอาไว้ให้น้องแมว วิธีนี้มีข้อดีก็คือ หากน้องแมวของเราพลัดหลงไปไกลบ้าน หรือประสบเหตุที่ทำให้ไม่สามารถกลับมาถึงบ้านได้ แล้วมีคนสังเกตเห็น หรือให้ความช่วยเหลือ โอกาสที่คนช่วยจะโทรศัพย์มาตามเบอร์ที่ห้อยคอไว้ก็มีค่อนข้างสูงอยู่น่ะนะคะ มีข้อแม้อยู่สองข้อก็คือ...น้องแมวตัวนั้นต้องไม่สวยเตะตาหรือมีสายพันธุ์ที่ดีจนคนที่เก็บได้ละโมบอยากเลี้ยงไว้ซะเองด้วยนะ >.< แถมท้ายด้วยว่า น้องแมวต้องไม่ถูกอุ้มหายไปด้วยฝีมือคนอื่นที่ไม่ว่าจะเห็นป้ายห้อยคอยังไงก็คงไม่ปล่อยกลับคืนมาแน่

วิธีที่สี่ก็คือ การสรรหาอุปกรณ์ไฮเทคต่าง ๆ นานามาเพื่อใช้ในการช่วยค้นหา หากเกิดภาวะการณ์แมวหายฮ่ะ อย่างเช่น พวกปลอกคอที่มี GPS หรือมีเครื่องมือค้นหาต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันมีวางขายอยู่ในหมู่คนมีตังค์มากมาย โดยเฉพาะต่างประเทศ แต่ก็นั่นล่ะ บางเครื่องก็มีประสิทธิภาพดีพอไว้ใจได้ แต่บางเครื่องก็ไม่ได้ทำได้ตามที่อวดอ้าง ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ...มันแพงจนบางครั้งคนเลี้ยงแมวอย่างพวกเราเอื้อมไม่ค่อยจะถึง

วิธีที่ห้าซึ่งเป็นวิธีสุดท้ายที่จะช่วยป้องกันแมวหายแบบเบสิคมาก ๆ ก็คือ หากจะพาแมวออกไปข้างนอก ก็ควรจับน้องแมวใส่กรง,ตะกร้า หรือมีสายจูงให้เรียบร้อย ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันน้องแมวตื่นกลัวกับสภาพแวดล้อมจนดิ้นหลุดหายไปนั่นเอง

ในตอนหน้าของบล็อกยัยกะทิ เราจะมาดูวิธีตามหาน้องแมวของเราที่หายไปจากบ้านกันบ้างนะคะ แล้วกลับมาพบกันได้ใหม่ในครั้งหน้าค่ะ



เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai