วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2556

คุณพระช่วย กะทิหลุด !!


อิ่เจ๊มันอยากจะอกแตกตาย..เมื่อวานยัยกะทิหลุดออกจากกรงแล้วก็สะบัดตรูด โดดผลุงปีนรั้วหนีไปตึกข้าง ๆ อ่ะ T^T

เมื่อวานนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่อิชั้นเหนื่อยจนพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลยฮ่ะ ไม่ใช่อะไรหรอก ไอ้ที่มันเหนื่อยเพราะต้องวิ่งตามไล่จับยัยกะทิที่หลุดผลั๊วะออกจากกรงแล้วก็เตลิดหนีเข้าไปในรั้วของหอพักที่มีบริเวณอยู่ติดกันนี่เอง

แสบแสนซน
เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมากฮ่ะ อิชั้นเกือบจะได้กลับบ้านเร็วอยู่แล้วเชียว เพราะหลังจากพาัยัยกะทิใส่สายจูงเดินเล่นแล้วก็ให้อาหารเปียกยัยกะทิกินเป็นที่เรียบร้อยละ ก็พายัยกะทิกลับเข้ากรง พอจะปิดกรง สายตาก็ดั๊นนน....เหลือบไปเห็นถ้วยอาหารเม็ดที่ดันมีมดขึ้นอยู่ตรึมเข้าให้ (ขึ้นได้ไงฟระ ถ้วยก็หล่อน้ำอยู่) ก็เลยตั้งใจจะหยิบเอามาปัดมดให้นี๊ดเดียว..จริง ๆ มันก็เป็นความสะเพร่าของอิชั้นเอง ที่ไม่คิดว่าแมวมันก็มีติง แถมเป็นติงที่โดดสูงได้ เพราะเผลอแผล็บเดียวยัยกะทิก็โดดผลุงข้ามไหล่ขวาของอิชั้นออกนอกประตูกรงไปทันที ไปแล้วไม่ใช่วิ่งปรู๊ดไปในทันทีนะคะ แต่ยังมีหน้าไปหยุดนั่งเลียขนตรูดตัวเองเยาะเย้ยอิ่เจ๊มันที่ยืนทำหน้าตาเหรอหราอยู่อีกตะหาก...พยายามทำใจชื้น ๆ เรียกมันด้วยน้ำเสีียงอ่อนโยน แล้วก็เดินเข้าไปจะจับมัน เท่านั้นแหละฮ่ะ แม่วิ่งเร็วปรู๊ดดด...แล้วก็โดดเกาะรูรั้วของหอพักข้าง ๆ หายวับไปกับตา T^T

นาทีนั้น อิ่เจ๊มันสตั๊นไป 4 วิ ฮ่ะ.. >.< เพราะจะให้โดดตามก็ไม่มีทางเป็นไปได้ เนื่องจากรั้วปูนนี้สูงท่วมหัว (แต่มันมีรูระบายอากาศ เป็นอิฐบล็อกแบบมีรูอ่ะ นึกออกมั้ยคะ) ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือรีบใส่ติงหมา โกยแน่บอ้อมไปยังหอพักข้าง ๆ ทันที เดชะบุญที่หอพักเค้าไม่ได้มีข้อห้ามเรื่องบุคคลภายนอกเข้าออก อิชั้นก็เลยวิ่งอ้อมเข้าไปทางด้านหน้าได้ พอไปถึงก็เรียกชื่อทันทีฮ่ะ กลัวเหลือเกินว่ามันจะไม่อยู่แล้ว เพราะรั้วของหอพักแถวนี้ ก็เป็นรั้วปูนติด ๆ กันทั้งนั้น แถมด้านหลังยังเป็นป่ารกชัฎ ที่มีบ้านคนเลี้ยงหมาดุไว้อีกต่างหาก ซึ่งถ้าหลุดไปได้ ก็คงหากันไม่เจอหรือไม่ก็โดนฟัดตายเป็นแน่ แต่โชคยังเข้าข้างฮ่ะ เพราะพอยัยกะทิได้ยินเสียงอิชั้นก็วิ่งแน่บออกมาทันที

หกล้มอิ่ตอนโดดจับยับกะทิอ่ะ T^T
แตร๊....มันไม่ได้วิ่งมาหาอิชั้นอ่ะ (อิ่เด็กเวง) มันแค่วิ่งแน่บมาทางอิชั้น แล้วก็เลี้ยวทำมุม 90 องศาไปอีกทาง ฝ่ายอิ่เจ๊มันก็ต้อนไปสิ..วิ่งไปทางไหน ก็ไล่ต้อนไล่จับไปทางนั้น กลัวเหมือนกันว่ามันจะยิ่งเตลิดแล้วก็ปีนหนีข้ามรั้วไปที่หออีกฝั่ง...แต่ก็นะ..ไม่รู้มันสนุกหรืออย่างไร  เพราะมันเอาแต่วิ่งเอาล่อเอาเถิดไม่ให้อิชั้นจับได้ซะงั้น..เดี๋ยวก็แอบตรงใต้ต้นไม้ เดี๋ยวก็ไปหยุดหอบแฮ่กในดงกล้วย T^T (แกเป็นแมวตานีเหรอยะ) เล่นเอาอิ่เจ๊มันใจจะขาด (ณ.จุดนั้น เริ่มรู้ละว่าสังขารไม่เที่ยงจริง ๆ) ในนาทีสุดท้าย พอมันเริ่มเหนื่อยแล้วก็นอนแหมะแปะอยู่ริมรั้ว อิชั้นก็ใช้วิชานินจาตัวเบา สไลด์ตัวเข้าไปจับมันทันที เกือบจับไม่ได้แน่ะ แต่ก็นะ...ยอมเจ็บตัวอ่ะ นาทีนั้นถ้าไม่จับให้ได้ ก็เห็นทีจะยากละ ผลสุดท้ายก็จับได้ฮ่ะ...แต่ก็สะบักสะบอมกันทั้งพี่ทั้งน้อง อยากจะกัดมันให้หูขาดจริง ๆ ให้ตายเซ่ะ..ช่างไม่รู้อะไรมั่งเล้ย ว่าทำแบบนี้มีแต่รังจะทำให้อิ่เจ๊มันประสาทเสีย ระแวงว่ามันจะหายมากขึ้น

ระหว่างอุ้มตัวกลับมาที่ตึก กะทิมันขู่ครืดด..ครืดด....อยู่ในลำคอฮ่ะ...แถมดิ้นปั่ด ๆ จะลงอีกตะหาก เดาเอาว่ามันยังไม่อยากกลับเข้ากรงอ่ะ อิชั้นชักนึกสงสัยซะละ ว่ามันจะเครียดที่ต้องอยู่ในกรงตัวเดียวเป็นเวลานาน ๆ รึเปล่าฟระ แถมอิ่หมู่นี้มีรถปิคอัพมาจอดปิดหน้ากรงมันจนมองไม่เห็นวิวข้างนอกเหมือนที่เคยเห็นอีกต่างหากด้วย อย่ากระนั้นเลย วันนี้คงต้องพยายามหาเจ้าของรถให้มาขยับรถไปจอดจุดอื่นให้ได้ แล้วก็คงต้องคิดถึงเรื่องที่จะหาแมวน้อยมาเป็นเพื่อนยัยกะทิซะแระ..

อย่าทำแบบนี้บ่อย ๆ นะกะทิ สงสารเจ๊มั่ง หลุดทีหายใจจะวายที มันไม่ใช่วีรกรรมแสนดีของหนูเลยนะ กระซิก ๆ



เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai