วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

อัพเดทการรักษาเชื้อรายัยกะทิ


นับตั้งแต่รู้ว่ายัยกะทิโดนเชื้อราแดร่กเมื่อเกือบสองเดือนก่อน อิชั้นก็เฝ้าเพียรรักษายัยกะทิไม่หยุดหย่อนเลยฮ่ะ หมายถึง นอกจากพายัยกะทิไปให้หมอแมวดูก่อนจะได้รับการจ่ายยามาสิริรวม 1 ตลับถ้วน !!??แล้ว..อิชั้นยังคงมุ่งมั่น เมามันกับการจับยัยกะทิอาบน้ำด้วยแชมพูที่ขจัดเชื้อราอีกด้วย

หลาย ๆ คนที่เจอปัญหาน้อง แมวเป็นโรคเชื้อรา เหมือนกัน ก็คงจะอ่อนใจกับการรักษาให้เชื้อราหายเหมือนอิชั้นนี่ล่ะนะคะ เพราะงานนี้ไม่ใช่ว่ารักษากับป๊อบแป๊บ ๆ แต่จะต้องอดทนรักษากันอย่างยาวนาน ยิ่งถ้าเป็นแมวสายพันธุ์ดี ๆ อย่างเช่นพวกแมวขนยาวเฟื้อยทั้งหลาย ก็ถึงขนาดอาจจะต้องโกนขนเพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพมากที่สุดกันเลยทีเดียว

อันที่จริงแล้ว ก่อนหน้านั้น อาคุงหมอเคยบอกอิชั้นว่า ให้ใช้วิธีทายาบริเวณที่เป็นรอยโรคของเชื้อราอย่างเดียวโดยไม่ต้องอาบน้ำให้กะทิแต่อย่างใดฮ่ะ คุณหมอบอกว่าที่ไม่ให้อาบน้ำ ก็เพราะเชื้อรามันชอบความชื้นนัก ยิ่งชื้น..มันก็ยิ่งแตกตัวลุกลามได้ดี แต่แหม...ใครมันจะไปทนได้ นับวันยัยกะทิก็ยิ่งดำเขลอะ อย่ากระนั้นเลย ลอง search หาข้อมูลในเน็ตดูทีรึ ว่าน้องแมวที่เป็นเชื้อราทั้งหลาย เค้ามีวิธีรักษากันยังไงมั่ง

ผลลัพท์ก็คือ หลาย ๆ คนนอกจากจะใช้วิธีทายาซึ่งค่อนข้างปลอดภัยกว่าการให้ยาแมวกินแล้ว ก็ยังใช้วิธีอาบน้ำให้น้องแมว ด้วยแชมพูที่มีส่วนผสมของ  คีโตโคนาโซล หรือ ซีลีเนียม ซัลไฟด์ ด้วยฮ่ะ ซึ่งงานนี้ อิชั้้นเลือกใช้แชมพูคนยี่ห้อ ไนโซรัล ซึ่งมีคนทดลองใช้กับแมวแล้วพบว่าได้ผลดีในเรื่องของการช่วยขจัดเชื้อรา เราลองมาดูวิธีอาบน้ำให้น้องแมวด้วยแชมพูยาไนโซรัลกันนะคะ

  1. เตรียมแชมพูไนโซรัล,กะละมังอ่างน้ำขอบสูง 2 ใบ,ฟองน้ำ 1 อัน แล้วเริ่มลงมือได้เลยฮ่ะ
  2. ใส่น้ำลงในอ่างใบแรกให้น้ำมีความสูงประมาณ 3-4 นิ้ว นำน้องแมวลงยืนในอ่างให้น้องแมวเกาะขอบกะละมังไว้ จากนั้นจึงใช้น้ำราดบนตัวน้องแมวให้ชุ่ม (ยกเว้นส่วนหัว ให้ใช้ฟองน้ำในการชุบน้ำเพื่อเช็ดให้เปียกให้ทั่ว) ลงแชมพูในโซรัลให้ทั่วตัวน้องแมวโดยถูให้ถึงผิวหนัง เน้นถูบริเวณที่เป็นเชื้่อรา ทิ้งไว้ราว 5-10 นาที จากนั้นนำน้องแมวลงสู่อ่างที่ 2 ที่ใส่น้ำจนเต็มรอไว้ ล้างแชมพูออกจากตัวน้องแมวให้หมดจด
  3. นำน้องแมวออกมาเช็ดตัวให้แห้งสนิท อาจใช้ไดร์เป่าผมเป่าลมเย็นช่วยด้วยก็ได้ หรือจะใช้วิธีนำน้องแมวใส่กรงไปตากแดดอ่อน ๆ สักพัก (อย่าตากจนลืมละกัน เดี๋ยวจะกลายเป็นน้องแมวแดดเดียวซะก่อน >0<)
  4. ทายาที่คุณหมอให้มา บริเวณรอยโรคที่เป็นเชื้อรา โดยเฝ้าระวังไม่ให้น้องแมวเลียยาออก (อาจใส่คอล่าให้น้องแมวด้วยก็ได้ค่ะ)
สำหรับยัยกะทิเอง นอกจากจะอาบน้ำแล้ว อิชั้นยังพยายามทำความสะอาดกรง ด้วยการกวาดและลากกรงไปตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรครวมไปถึงเชื้อราเป็นประจำด้วยฮ่ะ...และพออาบน้ำยัยกะทิปั๊บ ก็เช็ดตัวเช็ดหน้า เช็ดหูให้แห้งหมาด ก่อนจะนำใส่กรงที่ตั้งตากแดดไว้ด้วย ไม่บ่อยครั้งนักที่ยัยกะทิจะได้อาบแดด งานนี้ก็เลยดูเหมือนมันจะชอบจั๊กนัก..มาดูยัยกะทิอาบแดดหลังอาบน้ำกันนะคะ


จับใส่กรงปั๊บ นั่งแหมะเลียขนปุ๊บ..


หลังอาบน้ำทุกครั้งจะดูรื่นเริงกว่าปกติฮ่ะ คาดว่าอาจจะเป็นเพราะสบายตัวมากขึ้น งานนี้ปีนขึ้นปีนลงชั้นวางแมวเป็นว่าเล่น


นั่งแหมะบนสตูล ที่เห็นหัวหูตั้งนั่น เป็นเพราะมีน้องนกจิ๊บ ๆ แลนดิ้งลงบนพื้นลานใกล้ ๆ


แต่งขนอย่างสบายใจเฉิบ...


ร่าเริงสุดขั้วฮ่ะ..อิชั้นสงสัยว่ามันเป็นลิงในคราบแมวหรืออัลไล..............Y^Y


หลังการอาบน้ำ ทายา รักษามาสองเดือน อาการเชื้่อรายัยกะทิก็๋ดีขึ้นมากฮ่ะ..รอยราดำใต้ปากใต้คางหายหมดแล้ว เหลือแค่รอยบริเวณเบ้าตาอีกเล็กน้อย ซึ่งก็นะ..ก็คงจะต้องอดทนรักษากันไป..ไฟท์ติ้งกันต่อไปเนอะกะทิเนอะ



เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai