วันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2557

หวัดรับประทานกันกลางฤดูฝน (ไข้หวัดแมว)


ไม่ใช่คนหรอกฮ่ะ มอ.แมวต่างหาก >0</

เมื่อวานนี้เล่าให้ฟังเรื่องที่อิ่เจ๊พายัยโกกิไปหาหมอเนื่องจากมันเป็นหวัดมาแล้วอ่ะนะคะ บางคนคงงง ๆ เอ๊ะ กะอิ่แค่แมวเป็นหวัด จะเป็นเดือดเป็นร้อนอะไรนักหนา เป็นเองได้ก็หายเองได้ แค่หวัดเอ๊งงงง..จิ๊บ ๆ

ขอบอกว่าเรื่องหวัดกับแมวนี่เป็นอะไรที่ประมาทไม่ได้เลยฮ่ะ เพราะโรค "หวัดแมว" เป็นโรคที่นอกจากจะติดต่อกันระหว่างแมวกับแมวง่ายมากแล้ว (ติดทางน้ำมูก,น้ำลาย,น้ำตา สารคัดหลั่งจากร่างกายแมวทุกชนิด แม้แต่หายใจรดกันก็ยังติด !!) ยังมีอัตราการตายที่สูงอีกด้วย เนื่องจากหากเป็นแมวที่ไม่มีเจ้าของ ก็จะมีอาการที่หนักขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงขนาดร่างกายขาดอาหารและน้ำ(เนื่องจากเป็นแผลในปากจนกินอะไรไม่ได้) หลอดลมอักเสบ จนถึงขั้นพัฒนากลายเป็นปอดบวม แม้แต่แมวที่มีเจ้าของเอง หากเจ้าของไม่ได้ใส่ใจคอยสังเกตความผิดปกติของแมว ก็อาจรู้ตัวว่าแมวของตัวเองเข้าขั้นตรีฑูตเมื่อสายเกินไปแล้วก็ยังได้

ไม่ได้ขู่นะเฟร้ย..อันนี้เรื่องจริง (อิ่เจ๊ยืนยัน)

อ่ะ..กลับมาว่ากันต่อเรื่องยัยโกกิ หลังจากพาโกกิไปหาหมอแล้วก็ถูวินิจฉัยว่าเป็น ไข้หวัด แน่นอนแล้ว ยัยโกกิก็โดนฉีดตรูดมาสองเข็มฮ่ะ เข็มนึงรักษาอาการอักเสบ และอีกเข็มนึงฆ่าเชื้อ ส่วนตัวยาก็มีสามตัว เป็นยาแก้หวัด 1 ยาฆ่าเชื้อ 1 ส่วนอีกตัวก็เป็นยาละลายเสมหะ


ส่วนยัยกะทิ แม้จะไม่มีอาการ กินได้ดีเป็นพายุบุแคม ว่างเป็นหลับขยับเป็นกิน เป็นที่น่าชื่นใจต่อผู้พบเห็นตลอด ๆ นั้น ก็ไม่พ้นกับการต้องกินยาแก้หวัด 1 ตัวเช่นกันฮ่ะ เนื่องจากสองพี่น้องนี่ หลับเกยกันตลอด คือ โกกิมีอาการหวัดมาเป็นอาทิตย์แระ จะจับแยกตอนนี้ก็คงไม่ทันละล่ะ ทางเลือกก็คือ ก็ให้อยู่ด้วยกันนั่นล่ะ แต่กินยาไปพร้อม ๆ กันซะทีเดียว

โกกิน่าสงสารค่ะ เข้าใจว่าหิวล่ะ แต่เจ็บคอ มีเสลดพันคอ ก็เลยกินอะไรไม่ค่อยได้ เมื่อวานซึ่งเป็นวันที่สองของการป้อนยาเด็กป่วย ก่อนเข้าออฟฟิศ อิ่เจ๊ก็เลยแวะซื้อ "ต้นไผ่เงิน" เอามาให้แทะเล็มเพื่อให้โกกิสำรอกเสลดออกมาได้บ้าง..

พอเอาไผ่เงินมาตั้งในออฟฟิศป๊าบ....ฝูงแมวซอมบี้ก็มารุมล้อมทันทีฮ่ะ


ต้นไผ่เงินนี้เป็นหนึ่งในต้นไม้ใบหญ้าที่แมวชอบกินและดีต่อสุขภาพแมวฮ่ะ ใครที่ขี้เกียจปลูกข้าวสาลีออแกนิกซ์ที่กำลังโด่งดังให้แมวกินบ่อย ๆ ก็เลือกซื้อมาสักต้นสองต้น มีดินก็ลงดิน ไม่มีดินก็ลงกระถาง ที่สำคัญก็คือให้โดนแดดบ้าง ให้น้ำประจำ เมื่อมันแตกกอใหญ่ก็สามารถแบ่งเป็นกอเล็ก ๆ ปลูกลงกระถางอื่นๆ ได้ แมวชอบกินมากอ่ะ ขนาดโกกิเจ็บ ๆ คออยู่ ยังแดร่ก...ยังกะเป็นหมีแพนด้าซะรอบวง


ยัยโกกิกินเอา ๆ สักพักก็หลบไปนอนแอ้งแม้งแล้วก็....."ขย้อน" เอาใบไผ่ที่จับเสมหะในลำคอออกมาดังภาพที่แสดงข้างล่างนี้ (เหมือนเขียนรายงานส่งคุณครูตอน ม.1 เลยเนอะ 5555+)


อิ่เจ๊ไม่รอช้าฮ่ะ รีบคว้ากระดาษชำระไปโกยทิ้ง เช็ดให้แห้งแล้วหยอดยาฆ่าเชื้อโรคลงไปจึ๋งนึง (จริง ๆ เป็นเจลล้างมือฆ่าเชื้อโรคของอิ่เจ๊ที่อิ่เจ๊พกไปเอง)  เช็ดถูเป็นวงกลมบริเวณนั้น หวังไว้ในใจว่า การเช็ดถูเป็นวงกลม จะทำให้เชื้อโรคที่ออกมาพร้อมเสลดมึนงง หมดฤทธิ์ที่จะติดต่อกับแมวตัวอื่นๆ โดยเฉพาะยัยกะทิต่อไป

พอขย้อนเอาเสลดออกมาได้บ้างปั๊บ โกกิก็เริ่มกินข้าวได้ฮ่ะ..


คงเหมือนนคนแหละเนอะ เจ็บคอ มีเสลด เป็นไข้ ขรี้ไม่ออก(อันหลังนี่อิ่เจ๊ละ) พอได้กินยา ได้ตัวช่วยที่ทำให้คอโล่งขึ้น ก็หิว..อยากกินขึ้นมาทันที

กินเสร็จพี่หน่องก็มาพอดี..ผลเหรอคะ หึหึ..ไปอ้อนพี่หน่องซะงั้น (พี่หน่องรักค่ะ กอดรัดฟัดเหวี่ยง จุ้บ ๆ กันทุกวัน)


มีการแอบไปนอนด้วยเป็นพัก ๆ .. คิดว่าคงพยายามฝันถึงเลขเด็ดเอามาบอกอิ่เจ๊เพื่อเป็นค่าหมอ


โถ...ลำตัวซูบผอมเป็นก้อน ๆ เชียว น่าสงสารนิ...(ใช่เหรอ).... T^T

ตอนนี้ก็ต้องอาศัยพี่ ๆ ที่ออฟฟิศช่วยกันป้อยยาค่ะ อิ่เจ๊กังวลมากหน่อย เพราะกรงของกะทิกับโกกิไม่ค่อยจะพ้นละอองฝนชื้นๆ เลย ขนาดอยู่ใต้ตึกมีหลังคาคลุมตลอดนะคะนี่ แต่เนื่องจากที่ตึกเป็นอพาร์ทเม้นท์ที่มีใต้ถุนสูง ดังนั้นอาคารหลังนี้ก็เลยมีลมเย็นพัดผ่านตลอดเวลา ยิ่งช่วงไหนฝนตก ลมจะแรงเป็นพิเศษ และไอ้ลมนี่ล่ะที่พัดเอาละอองเล็ก ๆ ของฝนเข้ามาใส่กรงด้วย ก็ได้แต่พยายามหาวิธีกันฝนให้ เวลาฝนตกก็เที่ยวโทร.บอกลูกน้องที่อยู่โยงเฝ้าตึกให้คอยดูว่าละลองฝนถึงกรงมั้ย หาอะไรต่อมิอะไรมาปิดกรงให้ สงสัยวันนี้คงต้องเพิ่มมาตรการให้ความอบอุ่นกันใหม่ เพราะอาการเย็นลงทุกที

แล้วจะเก็บภาพกีฬามัน ๆ วันเป็นหวัดของยัยโกกิมาฝากกันใหม่นะคะ

เจอกันกับไดอารี่บล็อกยัยกะทิคราวหน้าค่ะ